10. พระองค์ทรงช่วยพวกเขาจากเงื้อมมือของปฏิปักษ์ทรงกอบกู้พวกเขาจากอุ้งมือของเหล่าศัตรู
11. น้ำไหลท่วมมิดเหล่าศัตรูไม่เหลือรอดสักคนเดียว
12. แล้วพวกเขาจึงเชื่อในพระสัญญาของพระองค์และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
13. แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำและไม่รอคอยคำแนะนำจากพระองค์
14. ในทะเลทรายพวกเขายอมแพ้แก่ความอยากในถิ่นกันดารพวกเขาลองดีกับพระเจ้า
15. พระองค์จึงประทานตามที่พวกเขาเรียกร้องแต่ทรงส่งโรคระบาดมาเหนือพวกเขา
16. ในค่ายพักนั้น พวกเขาเริ่มอิจฉาโมเสสและเริ่มริษยาอาโรนผู้ซึ่งได้รับการชำระและแยกไว้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
17. ธรณีจึงแยกออกและกลืนดาธานมันฝังอาบีรัมกับพวก
18. ไฟปะทุขึ้นในหมู่สมัครพรรคพวกของเขาเปลวไฟเผาผลาญเหล่าคนชั่ว
19. ที่ภูเขาโฮเรบ พวกเขาได้สร้างเทวรูปลูกวัวและกราบไหว้รูปเคารพซึ่งหล่อขึ้นจากโลหะ
20. พวกเขาแลกองค์ผู้ทรงเกียรติสิริของพวกเขากับรูปปั้นของวัวที่กินหญ้า
21. พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้เขารอดผู้ได้ทรงกระทำพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ในอียิปต์
22. ทรงกระทำการอัศจรรย์ในดินแดนของฮามและสิ่งที่น่าเกรงขามที่ทะเลแดง
23. ดังนั้นพระองค์จึงตรัสว่าจะทรงทำลายพวกเขายังดีที่โมเสสผู้ทรงเลือกสรรไว้ได้เข้าเฝ้า ทูลทัดทานเพื่อหันเหพระพิโรธไม่ให้ทำลายพวกเขา
24. ต่อมาพวกเขาก็ดูหมิ่นดินแดนอันน่ารื่นรมย์นั้นพวกเขาไม่เชื่อพระสัญญาของพระองค์
25. พวกเขากลับพร่ำบ่นอยู่ในเต็นท์ที่พักและไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า
26. พระองค์จึงทรงชูพระหัตถ์ปฏิญาณกับพวกเขาว่าพระองค์จะทรงให้พวกเขาล้มตายในถิ่นกันดาร
27. จะทรงกระทำให้ลูกหลานของพวกเขาไปตกอยู่ในหมู่ชนชาติทั้งหลายกระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆ
28. พวกเขาเข้าเทียมแอกกับพระบาอัลที่เปโอร์และรับประทานเครื่องเซ่นสังเวยแก่เหล่าเทพเจ้าอันไร้ชีวิต
29. พวกเขายั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยการทำชั่วต่างๆ นานาและเกิดโรคระบาดในหมู่พวกเขา
30. แต่ฟีเนหัสได้ลุกขึ้นจัดการโรคระบาดจึงหยุด