8. แต่ผู้ที่มุ่งหาประโยชน์ใส่ตัวและผู้ที่ปฏิเสธความจริงและติดตามความชั่วจะได้รับพระอาชญาและพระพิโรธ
9. ความทุกข์ร้อนลำเค็ญจะมีแก่ทุกคนที่ทำชั่ว พวกยิวก่อน แล้วคนต่างชาติด้วย
10. แต่ศักดิ์ศรี เกียรติ และสันติสุขจะมีแก่ทุกคนที่ทำดี พวกยิวก่อน แล้วคนต่างชาติด้วย
11. เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง
12. คนทั้งปวงที่ไม่มีบทบัญญัติและได้ทำบาปจะพินาศโดยไม่ต้องอ้างถึงบทบัญญัติ และคนทั้งปวงที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติและได้ทำบาปจะถูกตัดสินตามบทบัญญัติ
13. เพราะผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรพระเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังบทบัญญัติ แต่ผู้ที่ทำตามบทบัญญัติต่างหากที่พระเจ้าจะทรงประกาศว่าเป็นผู้ชอบธรรม
14. (อันที่จริงเมื่อคนต่างชาติผู้ไม่มีบทบัญญัติได้ทำสิ่งที่บทบัญญัติกำหนดไว้โดยปกติวิสัยของเขา เขาก็เป็นบทบัญญัติให้ตนเองแม้ว่าเขาไม่มีบทบัญญัติ
15. เพราะเขาแสดงให้เห็นว่าข้อกำหนดต่างๆ ของบทบัญญัติได้จารึกอยู่ในใจของเขา จิตสำนึกของเขาก็เป็นพยานด้วยและความคิดของเขานั่นแหละที่ฟ้องร้องหรือปกป้องเขา)
16. สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาความลับของมนุษย์โดยทางพระเยซูคริสต์ ตามที่ระบุไว้ในข่าวประเสริฐซึ่งข้าพเจ้าประกาศ
17. แต่ถ้าท่านเรียกตนเองว่ายิว ถ้าท่านพึ่งบทบัญญัติและโอ้อวดว่าท่านมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า
18. ถ้าท่านรู้พระประสงค์ของพระองค์และเห็นชอบในสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะท่านได้รับการสั่งสอนจากบทบัญญัติ
19. ถ้าท่านมั่นใจว่าตนเป็นผู้นำทางให้คนตาบอด เป็นแสงสว่างแก่ผู้ตกอยู่ในความมืด
20. เป็นผู้สอนคนโง่ เป็นครูสอนเด็ก เพราะท่านมีความรู้และความจริงทั้งมวลที่อยู่ในบทบัญญัติ
21. แล้วท่านผู้สอนคนอื่น ท่านไม่สอนตัวเองบ้างหรือ? ท่านผู้เทศนาว่าไม่ควรลักขโมย ท่านลักขโมยหรือไม่?
22. ท่านผู้กล่าวว่าอย่าล่วงประเวณี ท่านเองล่วงประเวณีหรือไม่? ท่านผู้รังเกียจรูปเคารพ ท่านปล้นพระวิหารหรือไม่?