6. ฉะนั้นขอทรงหันไปจากเขา ปล่อยเขาไว้ตามลำพังจนกว่าเวลาของเขาจะหมดลงเหมือนคนที่ถูกจ้างมา
7. “อย่างน้อยที่สุดยังมีความหวังสำหรับต้นไม้ถึงมันถูกโค่นก็ยังจะแตกหน่อขึ้นมาอีกและงอกกิ่งใหม่ขึ้นมาแทน
8. รากของมันอาจจะแก่คร่ำคร่าอยู่ในดินและตอก็ผุพัง
9. แต่เมื่อมันได้กลิ่นอายของน้ำมันก็สามารถแตกหน่อขึ้นมาใหม่เหมือนต้นอ่อน
10. แต่มนุษย์ตายไปและสิ้นแรงเขาหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วก็ไม่เหลืออะไร
11. น้ำในทะเลสาบแห้งไปและแม่น้ำแห้งเหือดไปฉันใด
12. คนเราก็นอนลงและไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกฉันนั้นถึงฟ้าดินสิ้นสลาย มนุษย์ก็จะไม่ฟื้นขึ้นมาหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีก
13. “ถ้าเพียงแต่พระองค์จะซ่อนข้าพระองค์ไว้ในหลุมศพและพรางข้าพระองค์ไว้จนกว่าพระพิโรธของพระองค์จะผ่านไป!ถ้าเพียงแต่พระองค์จะทรงกำหนดเวลาไว้ให้ข้าพระองค์และทรงระลึกถึงข้าพระองค์อีก!
14. เมื่อคนเราตายไป เขาจะมีชีวิตอีกหรือ?ข้าพระองค์สู้เหนื่อยยากมาตลอดวันคืนข้าพระองค์จะรอคอยการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะมาถึง
15. พระองค์จะตรัสเรียก และข้าพระองค์จะขานรับพระองค์จะทรงคิดถึงพระหัตถกิจของพระองค์
16. แน่นอน พระองค์จะทรงนับย่างก้าวของข้าพระองค์แต่ไม่นับบาปของข้าพระองค์
17. การล่วงละเมิดของข้าพระองค์จะถูกผนึกตราไว้ในถุงจะทรงปกปิดบาปของข้าพระองค์ไว้
18. “แต่เหมือนภูเขาสึกกร่อนและทลายไปและเหมือนหินถูกย้ายไปจากที่ของมัน
19. เหมือนน้ำกัดกร่อนก้อนหินและกระแสน้ำเชี่ยวพัดพาดินไปพระองค์ก็ทำลายความหวังของมนุษย์อย่างนั้นแหละ
20. พระองค์ทรงกำราบเขาเพียงครั้งเดียว เขาก็ล่วงลับไปพระองค์ทรงเปลี่ยนสีหน้าของเขา แล้วทรงส่งเขาไป
21. แม้ลูกๆ ของเขาจะมีเกียรติ เขาก็ไม่รู้แม้ลูกๆ ของเขาจะตกต่ำ เขาก็ไม่เห็น
22. เขารู้สึกได้แต่ความเจ็บปวดของร่างกายของตนเองและคร่ำครวญเพื่อตนเองเท่านั้น”