3. แจ้งคำสั่งแก่ประชาชนว่า “เมื่อเห็นปุโรหิตซึ่งเป็นชนเลวีหามหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงเคลื่อนออกจากที่ของท่านตามไป
4. เพราะท่านไม่เคยเดินผ่านทางนี้มาก่อน ฉะนั้นเขาจะนำท่านไป แต่อย่าเข้าไปใกล้หีบพันธสัญญา จงรักษาระยะห่างประมาณ 2,000 ศอก”
5. โยชูวาสั่งเหล่าประชากรว่า “จงชำระตนให้บริสุทธิ์ เพราะพรุ่งนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ท่ามกลางท่าน”
6. โยชูวากล่าวกับบรรดาปุโรหิตว่า “จงหามหีบพันธสัญญานำประชากรไปเถิด” พวกเขาจึงยกหีบพันธสัญญานำหน้าเหล่าประชากรไป
7. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “วันนี้เราจะเริ่มยกชูเจ้าขึ้นในสายตาของอิสราเอลทั้งปวง เพื่อเขาจะได้รู้ว่าเราอยู่กับเจ้าเหมือนที่เราอยู่กับโมเสส
8. จงสั่งปุโรหิตที่หามหีบพันธสัญญาว่า ‘เมื่อท่านทั้งหลายมาถึงริมแม่น้ำจอร์แดน จงก้าวไปยืนอยู่ในแม่น้ำ’ ”
9. โยชูวากล่าวแก่ชนอิสราเอลว่า “จงมาฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเถิด
10. วันนี้ท่านจะได้รู้ว่า พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่นั้นทรงอยู่ท่ามกลางพวกท่าน และพระองค์จะทรงขับไล่ชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวฮีไวต์ ชาวเปริสซี ชาวเกอร์กาชี ชาวอาโมไรต์ และชาวเยบุสออกไปต่อหน้าท่านอย่างแน่นอน
11. ดูเถิด หีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งมวลพิภพจะนำท่านทั้งหลายข้ามแม่น้ำไป
12. บัดนี้จงเลือกชายสิบสองคนจากแต่ละเผ่าของอิสราเอล มาเผ่าละหนึ่งคน
13. ทันทีที่เท้าของปุโรหิตผู้หามหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ คือองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งมวลพิภพ ก้าวลงไปในแม่น้ำจอร์แดน น้ำจะหยุดไหลลงและตั้งชันขึ้น”
14. ฉะนั้นเมื่อเหล่าประชากรรื้อค่ายเพื่อข้ามแม่น้ำจอร์แดน บรรดาปุโรหิตก็หามหีบพันธสัญญานำหน้าพวกเขาไป
15. ขณะนั้นเป็นฤดูเก็บเกี่ยว น้ำในแม่น้ำจอร์แดนล้นตลิ่ง แต่ทันทีที่เท้าของปุโรหิตผู้หามหีบพันธสัญญาแตะผิวน้ำตรงริมแม่น้ำ