17. “ทุกคนก็สิ้นคิดและขาดความรู้ช่างทองทุกคนอับอายขายหน้าเพราะรูปเคารพของตนเทวรูปของเขาเป็นสิ่งจอมปลอมพวกมันไม่มีลมหายใจ
18. มันเป็นของไร้ค่า เป็นสิ่งที่น่าเยาะเย้ยเมื่อถึงเวลาพิพากษา มันก็พินาศ
19. แต่พระองค์ผู้มีกรรมสิทธิ์เหนือยาโคบไม่เหมือนเทวรูปเหล่านี้เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่งรวมทั้งเผ่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
20. “เจ้าเป็นตะบองรบเป็นอาวุธสำหรับทำสงครามของเราซึ่งเราใช้เจ้าทุบบรรดาประชาชาติเราใช้เจ้าทำลายอาณาจักรต่างๆ
21. เราใช้เจ้าทุบม้าและพลม้าเราใช้เจ้าทุบรถม้าศึกและพลขับ
22. เราใช้เจ้าทุบผู้ชายและผู้หญิงเราใช้เจ้าทุบคนแก่และเด็กเราใช้เจ้าทุบชายหนุ่มและหญิงสาว
23. เราใช้เจ้าทุบคนเลี้ยงแกะและฝูงแกะเราใช้เจ้าทุบชาวนาและวัวเราใช้เจ้าทุบผู้ว่าการและขุนนางทั้งหลาย
24. “เราจะตอบสนองบาบิโลนและคนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในบาบิโลนต่อหน้าต่อตาเจ้าเพราะความผิดทั้งหมดที่เขาทำในศิโยน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
25. “เราเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าภูเขาผู้ทำลายล้างเอ๋ยเจ้าผู้ผลาญทำลายทั้งโลก” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น“เราจะเหยียดมือออกสู้กับเจ้าจะกลิ้งเจ้าลงจากหน้าผาและเผาเจ้าให้วอดวาย
26. จะไม่มีการสกัดหินจากเจ้าไปเป็นศิลาหัวมุมหรือทำเป็นฐานรากเพราะเจ้าจะถูกทิ้งร้างตลอดไป” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
27. “จงชูธงขึ้นในดินแดนนั้น!จงเป่าแตรในหมู่ประชาชาติจงเตรียมชนชาติต่างๆ ไว้สู้รบกับมันจงเรียกอาณาจักรเหล่านี้มาสู้กับมันคือเรียกอารารัต มินนี และอัชเคนัสจงตั้งแม่ทัพขึ้นสู้รบกับดินแดนนั้นจงส่งฝูงม้ามาให้เนืองแน่นเหมือนฝูงตั๊กแตน
28. จงเตรียมประชาชาติทั้งหลายมาสู้รบกับบาบิโลนได้แก่บรรดากษัตริย์มีเดียผู้ว่าการและขุนนางทั้งปวงตลอดจนประเทศทั้งปวงใต้อาณัติ
29. แผ่นดินก็สั่นสะท้านและทุรนทุรายเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนยันที่จะทำกับบาบิโลนตามที่ทรงตั้งพระทัยไว้คือทำให้ดินแดนบาบิโลนถูกทิ้งร้างไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
30. นักรบของบาบิโลนหยุดต่อสู้หมกตัวอยู่ในที่มั่นพลังของพวกเขาหมดสิ้นไปเขากลายเป็นเหมือนผู้หญิงที่อยู่อาศัยในบาบิโลนถูกวางเพลิงลูกกรงประตูเมืองต่างๆ หักพัง