12. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “หากผู้ที่ไม่สมควรรับโทษยังต้องดื่มจากถ้วยแห่งโทษทัณฑ์ แล้วเจ้าจะลอยนวลพ้นโทษไปได้หรือ? เจ้าจะไม่พ้นโทษไปได้หรอก เจ้าก็ต้องดื่มด้วย”
13. องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เราปฏิญาณโดยอ้างตัวเราเองว่า โบสราห์จะกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์และติเตียนสาปแช่ง หัวเมืองทั้งปวงของมันจะเป็นซากปรักหักพังตลอดไป”
14. ข้าพเจ้าได้ยินพระดำรัสจากองค์พระผู้เป็นเจ้าว่ามีทูตคนหนึ่งถูกส่งออกไปยังประชาชาติต่างๆ เพื่อแจ้งว่า“จงรวมกำลังกันไปบุกโจมตีเมืองนั้น!ยกทัพไปรบเถิด!”
15. “บัดนี้เราจะทำให้เจ้าเล็กกระจ้อยร่อยในหมู่ประชาชาติเป็นที่เหยียดหยามในหมู่ผู้คน
16. ความสยดสยองที่เจ้าคิดขึ้นและความหยิ่งผยองในใจได้หลอกลวงเจ้าเจ้าผู้อาศัยอยู่ในซอกหินผู้ครอบครองยอดเขาแม้เจ้าจะสร้างรังไว้สูงเหมือนรังนกอินทรีเราก็จะฉุดเจ้าให้ตกลงมา” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
17. “เอโดมจะกลายเป็นเป้าของความสยดสยองบรรดาคนที่ผ่านไปมาจะตกตะลึงและจะเยาะเย้ยถากถางเนื่องด้วยบาดแผลทั้งสิ้นของมัน”
18. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า“โสโดมและโกโมราห์ถูกทำลายพร้อมทั้งเมืองใกล้เคียงฉันใดเอโดมก็จะไม่มีใครอยู่ไม่มีใครอาศัยอีกต่อไปฉันนั้น
19. “ดุจสิงโตพุ่งออกมาจากพงไพรแห่งจอร์แดนสู่ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์เราจะขับไล่เอโดมออกจากดินแดนของมันในชั่วพริบตาใครคือผู้ที่เราเลือกสรรแต่งตั้งเพื่อการนี้?ใครจะเสมอเหมือนเราและใครจะท้าทายเราได้?และคนเลี้ยงแกะหน้าไหนจะต้านทานเราได้?”
20. ฉะนั้นจงฟังแผนการที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะจัดการกับเอโดมสิ่งที่พระองค์ทรงดำริไว้ต่อสู้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเทมานลูกอ่อนในฝูงจะถูกลากไปพระองค์จะทรงทำลายล้างทุ่งหญ้าของพวกเขาเพราะตัวพวกเขา
21. ทั่วโลกจะสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเสียงเอโดมล่มสลายเสียงร้องของชาวเอโดมจะดังไปถึงทะเลแดง
22. ดูเถิด! นกอินทรีตัวหนึ่งจะบินร่อนและโฉบลงมาคลี่ปีกเหนือโบสราห์วันนั้นจิตใจของนักรบเอโดมจะเหมือนจิตใจของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
23. พระดำรัสเกี่ยวกับดามัสกัสความว่า“ฮามัทและอารปัดท้อแท้หดหู่เพราะได้ยินข่าวร้ายจิตใจของเขาจึงระย่อทุรนทุรายเหมือนทะเลปั่นป่วน
24. ดามัสกัสก็หมดแรงเขาหันหนีและหวาดหวั่นจับใจความทุกข์ทรมานร้าวรานจู่โจมจับหัวใจเจ็บปวดรวดร้าวดั่งผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
25. นครเลื่องชื่อซึ่งเราปีติยินดีถูกทอดทิ้งแล้วไม่ใช่หรือ?