6. ข้าพระองค์ทั้งหลายยอมจับมือกับอียิปต์และอัสซีเรียเพื่อให้มีอาหารพอกิน
7. บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปและตายไปแล้วส่วนข้าพระองค์ทั้งหลายต้องมารับโทษแทน
8. พวกทาสปกครองข้าพระองค์ทั้งหลายและไม่มีใครช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา
9. ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องเสี่ยงชีวิตในถิ่นกันดารเพื่อให้มีอาหารกิน
10. ผิวหนังของข้าพระองค์ทั้งหลายร้อนผ่าวเหมือนเตาผิงระบมไข้เพราะความหิวโหย
11. พวกผู้หญิงถูกข่มขืนในศิโยนและสาวพรหมจารีในหัวเมืองของยูดาห์ถูกย่ำยี
12. บรรดาเจ้านายถูกมัดมือแขวนไว้พวกผู้อาวุโสไม่ได้รับความเคารพนับถือ
13. คนหนุ่มๆ ถูกเกณฑ์ไปโม่แป้งเด็กๆ แบกฟืนล้มลุกคลุกคลาน
14. บรรดาผู้อาวุโสไม่นั่งอยู่ที่ประตูเมืองอีกต่อไปบรรดาคนหนุ่มก็เลิกบรรเลงเพลง
15. ความชื่นชมยินดีหายลับไปจากใจของข้าพระองค์ทั้งหลายการเต้นรำของข้าพระองค์ทั้งหลายกลับกลายเป็นการคร่ำครวญ
16. มงกุฎร่วงหล่นไปจากศีรษะของข้าพระองค์ทั้งหลายวิบัติแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาป!
17. เพราะสิ่งเหล่านี้ ดวงใจของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงอ่อนระโหยดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงพร่ามัว
18. เนื่องด้วยภูเขาศิโยนซึ่งเริศร้างเป็นที่เพ่นพ่านของฝูงหมาใน
19. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์พระบัลลังก์ของพระองค์ยั่งยืนตลอดทุกชั่วอายุ
20. เหตุใดพระองค์ทรงลืมข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่ร่ำไป?เหตุใดทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายไปนานถึงเพียงนี้?
21. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงกอบกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับคืนสู่พระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะหวนกลับมาโปรดทรงฟื้นฟูอดีตอันรุ่งเรืองของข้าพระองค์ทั้งหลายกลับคืนมา
22. เว้นเสียแต่ว่าพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์ทั้งหลายไปอย่างสิ้นเชิงและทรงพระพิโรธข้าพระองค์ทั้งหลายเกินกว่าจะวัดได้