4. ถนนหนทางสู่ศิโยนคร่ำครวญหวนไห้เพราะไม่มีใครมางานเทศกาลตามกำหนดประตูเมืองทั้งหมดก็เริศร้างบรรดาปุโรหิตของเธอทอดถอนใจบรรดาหญิงสาวของเธอก็โศกเศร้าตัวเธอเองก็ทุกข์ทรมานขมขื่น
5. ศัตรูของเธอกลับกลายเป็นนายอริทั้งหลายของเธอเบิกบานสำราญใจเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำความทุกข์ระทมมาให้เธอเพราะบาปมากมายของเธอลูกเล็กเด็กแดงของเธอตกไปเป็นเชลยต่อหน้าศัตรู
6. ความโอ่อ่าตระการทั้งปวงพรากไปจากธิดาแห่งศิโยนเสียแล้วเจ้านายของเธอเป็นเหมือนกวางที่หาทุ่งหญ้าไม่ได้ต้องหนีไปต่อหน้านักล่าอย่างอ่อนแรง
7. ในยามทุกข์ลำเค็ญและต้องระหกระเหินเยรูซาเล็มก็หวนระลึกถึงสิ่งเลอเลิศที่เธอเคยมีในวันเก่าก่อนเมื่อพลเมืองของเธอตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูไม่มีใครช่วยเหลือเธอเหล่าศัตรูมองดูเธอและหัวเราะเยาะความย่อยยับของเธอ
8. เยรูซาเล็มได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวงดังนั้นเธอจึงแปดเปื้อนมลทินบรรดาคนที่เคยยกย่องเธอก็เหยียดหยามเธอเพราะเห็นความเปลือยเปล่าของเธอเธอเองสะอื้นไห้และหันหน้าหนี
9. ความโสโครกฝังแน่นในอาภรณ์ของเธอเธอไม่ใส่ใจอนาคตของเธอความล่มจมของเธอน่าใจหายไม่มีใครปลอบโยนเธอ“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ลำเค็ญของข้าพระองค์เพราะศัตรูชนะเสียแล้ว”