16. พวกเขายั่วยุให้พระองค์อิจฉาด้วยพระต่างด้าวทั้งปวงของเขาและยั่วยุพระพิโรธของพระองค์ด้วยรูปเคารพอันน่าชิงชังทั้งหลาย
17. พวกเขาเซ่นสังเวยแก่ภูตผีปีศาจซึ่งไม่ใช่พระเจ้าเป็นพระซึ่งเขาไม่เคยรู้จักพระซึ่งเพิ่งปรากฏพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่เกรงกลัว
18. ท่านได้ทอดทิ้งพระศิลาผู้ให้กำเนิดท่านท่านลืมพระเจ้าผู้ทรงให้ท่านเกิดมา
19. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นเช่นนี้และทรงละทิ้งเขาเพราะว่าบุตรชายบุตรสาวของพระองค์ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ
20. พระองค์ตรัสว่า “เราจะซ่อนหน้าจากพวกเขาและดูว่าบั้นปลายของเขาจะเป็นเช่นใดเพราะเขาเป็นคนรุ่นที่นอกลู่นอกรอยลูกหลานผู้ไม่ซื่อสัตย์
21. เขาทำให้เราอิจฉาสิ่งที่ไม่ใช่พระและยั่วโทสะเราด้วยรูปเคารพอันไร้ค่าเราจะทำให้เขาอิจฉาผู้ที่ไม่ใช่ชนชาติเราจะยั่วโทสะเขาด้วยประชาชาติที่ไม่มีความเข้าใจ
22. เพราะโทสะของเราจุดเปลวไฟซึ่งเผาถึงก้นบึ้งของแดนมรณาไฟนั้นจะเผาผลาญโลกและพืชผลทั้งปวงและบันดาลให้ภูเขาทั้งหลายลุกเป็นไฟ
23. “เราจะสุมหายนะลงเหนือพวกเขาและยิงธนูเข้าใส่พวกเขา
24. เราจะส่งการกันดารอาหารมาต่อสู้พวกเขาส่งโรคระบาดอันล้างผลาญและภัยพิบัติร้ายแรงมาเล่นงานพวกเขาเราจะส่งเขี้ยวเล็บของสัตว์ป่ามาทำร้ายพวกเขาส่งพิษของงูร้ายซึ่งเลื้อยมาในผงคลี
25. ตามท้องถนนมีคมดาบปลิดชีวิตลูกหลานของพวกเขาภายในบ้านมีความหวาดหวั่นพรั่นพรึงชายหนุ่มและหญิงสาวจะพินาศทั้งทารกและคนสูงอายุ
26. เราพูดแล้วว่าเราจะกระจายพวกเขาออกไปและลบพวกเขาให้เลือนหายไปจากความทรงจำของมนุษยชาติ
27. แต่เราหวั่นคำถากถางของศัตรูเกรงว่าปฏิปักษ์จะเข้าใจผิดและพูดว่า ‘มือของเราพิชิตชัยชนะ องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงทำอะไรเลย’ ”
28. พวกเขาเป็นชนชาติที่ไร้ความคิดขาดความฉลาดหลักแหลม
29. ถ้าเพียงแต่พวกเขาฉลาดและเข้าใจและมองออกว่าบั้นปลายของตนจะเป็นเช่นใด!
30. คนคนเดียวจะไล่คนเป็นพันได้อย่างไร?หรือสองคนทำให้คนเป็นหมื่นหนีเตลิดได้อย่างไร?ถ้าไม่ใช่เพราะพระศิลาของพวกเขาได้ขายพวกเขาเสียแล้วถ้าไม่ใช่เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้แล้ว
31. เพราะศิลาของชนชาติอื่นๆ ไม่เหมือนพระศิลาของเราแม้ศัตรูของเราก็ยอมรับเช่นนั้น