14. จึงทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยพูดให้ร้ายว่า “ข้าพเจ้าแต่งงานกับหญิงนี้ แต่เมื่อเข้าหานาง กลับไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ว่านางเป็นสาวพรหมจารี”
15. บิดามารดาของหญิงนั้นต้องนำข้อพิสูจน์พรหมจารีของนางมาให้ผู้อาวุโสประจำเมืองพิจารณาที่ประตูเมือง
16. ผู้เป็นบิดาจะกล่าวแก่บรรดาผู้อาวุโสว่า “ข้าพเจ้ายกบุตรสาวให้เป็นภรรยาของชายผู้นี้ แต่เขาไม่ชอบนาง
17. และตอนนี้เขามาพูดให้นางเสื่อมเสียว่า ‘ข้าพเจ้าพบว่า ลูกสาวของท่านไม่ใช่สาวพรหมจารี’ แต่นี่เป็นข้อพิสูจน์ความเป็นพรหมจารีของบุตรสาวของข้าพเจ้า” แล้วคลี่ผ้าออกให้คณะผู้อาวุโสของเมืองนั้นดู
18. ผู้อาวุโสจะนำชายผู้นั้นมาลงโทษ
19. และปรับเขาเป็นเงินหนัก 100 เชเขล มอบให้แก่บิดาของหญิงนั้น เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีชาวอิสราเอลเสียชื่อเสียง นางยังคงเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่ากับนางไม่ได้ตลอดชีวิต
20. แต่หากคำกล่าวหาเป็นความจริง และไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าหญิงนั้นเป็นสาวพรหมจารี
21. นางจะถูกนำตัวไปที่ประตูบ้านของบิดา และให้ชาวเมืองนั้นเอาหินขว้างนางให้ตาย นางได้ทำสิ่งที่น่าละอายในอิสราเอลโดยปล่อยตัวให้ผู้ชายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ออกเรือน ท่านจะต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน
22. ชายใดถูกจับได้ในขณะนอนกับภรรยาของคนอื่น ทั้งตัวเขาและหญิงผู้คบชู้จะต้องมีโทษถึงตาย ท่านจะต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอล
23. ชายใดพบสาวพรหมจารีซึ่งหมั้นแล้วและหลับนอนกับเธอในเมือง
24. ทั้งคู่จะต้องถูกนำตัวไปที่ประตูเมืองและถูกหินขว้างตาย เพราะเหตุที่ฝ่ายหญิงไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ และฝ่ายชายได้ละเมิดพรหมจารีคู่หมั้นของคนอื่น ท่านต้องขจัดความชั่วร้ายออกไปจากหมู่พวกท่าน
25. แต่หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนอกเมือง ชายผู้ข่มขืนหญิงสาวที่ผู้อื่นหมั้นหมายไว้แล้วต้องตายเพียงคนเดียว