8. “และนี่ใครกันหนอพากันเคลื่อนมาดั่งเมฆเหมือนนกพิราบบินกลับรัง?
9. แน่ทีเดียว เกาะแก่งทั้งหลายมองมายังเราที่แล่นนำหน้ามาคือกองเรือของเมืองทารชิชนำลูกๆ ของเจ้ามาจากแดนไกลพร้อมด้วยเงินและทองของพวกเขาเพื่อพระเกียรติสิริของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลเพราะพระองค์ประทานความรุ่งโรจน์แก่เจ้า
10. “ชาวต่างชาติจะสร้างกำแพงของเจ้าขึ้นใหม่บรรดากษัตริย์ของพวกเขาจะรับใช้เจ้าแม้ยามโกรธเราได้ลงโทษเจ้าแต่ในความโปรดปราน เราจะสำแดงความเมตตาแก่เจ้า
11. ประตูทั้งหลายของเจ้าจะเปิดไว้ตลอดไม่ปิดเลยทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อคนเหล่านั้นจะนำความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติมาให้เจ้าซึ่งบรรดากษัตริย์ของพวกเขาเป็นผู้นำขบวนฉลองชัย
12. เพราะประชาชาติหรืออาณาจักรใดไม่ยอมรับใช้เจ้าจะพินาศมันจะถูกทำลายล้างราบคาบ
13. “ศักดิ์ศรีแห่งเลบานอนจะมายังเจ้าทั้งต้นสน ต้นเฟอร์ และต้นไซเปรสเพื่อตกแต่งสถานนมัสการของเราและเราจะเชิดชูที่วางเท้าของเรา
14. บุตรทั้งหลายของผู้ที่กดขี่ข่มเหงเจ้าจะมาหมอบกราบตรงหน้าเจ้าคนทั้งปวงที่เหยียดหยามเจ้าจะหมอบแทบเท้าเจ้าและจะเรียกเจ้าว่า ‘นครขององค์พระผู้เป็นเจ้า’‘ศิโยนขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล’
15. “แม้ว่าเจ้าเคยถูกทอดทิ้งและเกลียดชังไม่มีใครเดินทางผ่านเราก็จะทำให้เจ้าเป็นเกียรติภูมินิรันดร์และเป็นความชื่นชมยินดีของคนทุกชั่วอายุ
16. เจ้าจะดื่มนมของประชาชาติต่างๆและเจ้าจะได้รับการฟูมฟักจากอกของเจ้านายเมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่า เรา พระยาห์เวห์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้าเป็นพระผู้ไถ่ของเจ้า เป็นองค์ทรงฤทธิ์ของยาโคบ
17. เราจะนำทองคำมาให้เจ้าแทนทองสัมฤทธิ์นำเงินมาแทนเหล็กเรานำทองสัมฤทธิ์มาให้เจ้าแทนไม้และนำเหล็กมาแทนหินเราจะทำให้สันติสุขเป็นเจ้าเมืองของเจ้าและความชอบธรรมเป็นผู้ปกครองของเจ้า
18. จะไม่ได้ยินเรื่องโหดร้ายทารุณในดินแดนของเจ้าอีกไม่มีหายนะหรือการทำลายล้างในเขตแดนของเจ้าแต่เจ้าจะเรียกกำแพงของเจ้าว่า ‘ความรอด’และประตูของเจ้าว่า ‘สรรเสริญ’
19. เจ้าจะไม่ต้องอาศัยแสงอาทิตย์ยามกลางวันหรือความสุกใสของดวงจันทร์อีกต่อไปเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความสว่างนิรันดร์สำหรับเจ้าและพระเจ้าของเจ้าจะเป็นศักดิ์ศรีของเจ้า
20. ดวงตะวันของเจ้าจะไม่ลับไปอีกเลยและดวงจันทร์ของเจ้าก็จะไม่มีข้างแรม องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นความสว่างนิรันดร์สำหรับเจ้าวันคืนอันทุกข์โศกของเจ้าจะสิ้นสุดลง