6. พระองค์จะทรงเป็นวิญญาณแห่งความยุติธรรมแก่ผู้ให้คำตัดสินทรงเป็นขุมพลังแก่ผู้พลิกผันสงครามที่ประตูเมือง
7. คนเหล่านี้ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้าองุ่นและหมุนเคว้งเพราะเมรัยคือปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้ามึนเมาเพราะเมรัยตุปัดตุเป๋เมื่อเห็นนิมิตล้มคะมำเมื่อให้คำตัดสิน
8. โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียนไม่มีจุดไหนที่ไม่โสโครก
9. “ใครกันหนอที่เขาพยายามสอน?เขากำลังอธิบายเนื้อความของเขาให้ใครฟังกันนี่?ให้เด็กอมมือที่เพิ่งหย่านมหรือ?ให้ทารกที่เพิ่งพ้นอกแม่หรือ?
10. เพราะมันเป็นอย่างนี้คือทำนี่ ทำนั่นกฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้นตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย”
11. ฉะนั้นพระเจ้าจะตรัสกับชนชาตินี้โดยใช้ปากของคนต่างชาติและสำเนียงภาษาแปลกๆ
12. พระองค์ตรัสแก่พวกเขาว่า“ที่นี่คือสถานพักพิง ผู้ที่เหนื่อยอ่อนจงพักเถิด”และตรัสว่า “ที่นี่เป็นที่พักสงบ”แต่พวกเขาจะไม่ฟัง
13. ฉะนั้นพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับพวกเขาจึงกลายเป็นว่าทำนี่ ทำนั่นกฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้นตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย เพื่อพวกเขาจะได้ไปและหงายหลังกลับมาบาดเจ็บ ติดกับ และตกเป็นเชลย
14. ฉะนั้นจงฟังพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด เหล่านักถากถางผู้ปกครองชนชาตินี้ในเยรูซาเล็ม
15. เจ้าอวดว่า “เราเข้าร่วมพันธสัญญากับความตายเราทำข้อตกลงกับแดนมรณะไว้แล้วเมื่อหายนะโหมกระหน่ำมามันจะแตะเราไม่ได้เพราะการโกหกเป็นเกราะป้องกันเราความเท็จเป็นที่ซ่อนของเรา”
16. ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า“ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยนเป็นศิลามุมเอกล้ำค่าเหมาะเป็นรากฐานอันมั่นคงผู้ที่วางใจจะไม่มีวันท้อแท้
17. เราจะใช้ความยุติธรรมเป็นสายวัดใช้ความชอบธรรมเป็นลูกดิ่งลูกเห็บจะกวาดล้างการโกหกอันเป็นเกราะกำบังของเจ้าน้ำจะซัดท่วมที่ซ่อนของเจ้า