2. ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีผู้หนึ่งซึ่งมีอำนาจและเข้มแข็งเหมือนพายุลูกเห็บและพายุล้างผลาญเหมือนฝนกระหน่ำ เหมือนน้ำทะลักท่วมพระองค์จะทรงเหวี่ยงพวกเขาลงกับพื้นอย่างแรง
3. มงกุฎดอกไม้แห่งเกียรติยศของเหล่าคนขี้เมาแห่งเอฟราอิมนั้นจะถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้า
4. ดอกไม้อันร่วงโรย ความงามอันเชิดหน้าชูตาของเอฟราอิมซึ่งประดับอยู่บนหัวของหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์จะเป็นเหมือนมะเดื่อสุกก่อนหน้าฤดูเก็บเกี่ยวเมื่อใครเห็นเข้าก็คว้าและกลืนกินเข้าไป
5. ในวันนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะเป็นมงกุฎอันทรงสง่าราศีเป็นมงกุฎดอกไม้ที่งดงามสำหรับชนหยิบมือที่เหลืออยู่ของพระองค์
6. พระองค์จะทรงเป็นวิญญาณแห่งความยุติธรรมแก่ผู้ให้คำตัดสินทรงเป็นขุมพลังแก่ผู้พลิกผันสงครามที่ประตูเมือง
7. คนเหล่านี้ซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้าองุ่นและหมุนเคว้งเพราะเมรัยคือปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะซึ่งโซซัดโซเซเพราะเหล้ามึนเมาเพราะเมรัยตุปัดตุเป๋เมื่อเห็นนิมิตล้มคะมำเมื่อให้คำตัดสิน
8. โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยอาเจียนไม่มีจุดไหนที่ไม่โสโครก
9. “ใครกันหนอที่เขาพยายามสอน?เขากำลังอธิบายเนื้อความของเขาให้ใครฟังกันนี่?ให้เด็กอมมือที่เพิ่งหย่านมหรือ?ให้ทารกที่เพิ่งพ้นอกแม่หรือ?
10. เพราะมันเป็นอย่างนี้คือทำนี่ ทำนั่นกฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้นตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย”
11. ฉะนั้นพระเจ้าจะตรัสกับชนชาตินี้โดยใช้ปากของคนต่างชาติและสำเนียงภาษาแปลกๆ
12. พระองค์ตรัสแก่พวกเขาว่า“ที่นี่คือสถานพักพิง ผู้ที่เหนื่อยอ่อนจงพักเถิด”และตรัสว่า “ที่นี่เป็นที่พักสงบ”แต่พวกเขาจะไม่ฟัง
13. ฉะนั้นพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับพวกเขาจึงกลายเป็นว่าทำนี่ ทำนั่นกฎของสิ่งนี้ กฎของสิ่งนั้นตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย เพื่อพวกเขาจะได้ไปและหงายหลังกลับมาบาดเจ็บ ติดกับ และตกเป็นเชลย
14. ฉะนั้นจงฟังพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด เหล่านักถากถางผู้ปกครองชนชาตินี้ในเยรูซาเล็ม
15. เจ้าอวดว่า “เราเข้าร่วมพันธสัญญากับความตายเราทำข้อตกลงกับแดนมรณะไว้แล้วเมื่อหายนะโหมกระหน่ำมามันจะแตะเราไม่ได้เพราะการโกหกเป็นเกราะป้องกันเราความเท็จเป็นที่ซ่อนของเรา”