5. พระองค์ทรงกำราบประชาชาติทั้งหลาย และทรงทำลายคนชั่วพระองค์ทรงลบชื่อของพวกเขาออกไปเป็นนิตย์
6. ศัตรูพินาศย่อยยับไปนิรันดร์พระองค์ทรงทำลายเมืองต่างๆ ของพวกเขาอย่างถอนรากถอนโคนแม้แต่อนุสรณ์ของพวกเขาก็วอดวายไปสิ้น
7. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครองอยู่เป็นนิตย์พระองค์ทรงสถาปนาบัลลังก์ของพระองค์ไว้เพื่อการพิพากษา
8. พระองค์จะทรงปกครองโลกด้วยความชอบธรรมและทรงพิพากษาประชาชาติทั้งหลายด้วยความยุติธรรม
9. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหงทรงเป็นปราการมั่นคงในยามยากลำบาก
10. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทุกคนที่รู้จักพระนามของพระองค์จะวางใจในพระองค์เพราะพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งบรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์
11. จงร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ครองบัลลังก์ในศิโยนจงประกาศพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางประชาชาติ
12. เพราะพระองค์ผู้ทรงแก้แค้นให้ไม่ทรงลืมพระองค์ไม่ทรงเพิกเฉยต่อเสียงร่ำร้องของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญ
13. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดทอดพระเนตรว่า เหล่าศัตรูข่มเหงรังแกข้าพระองค์เพียงใด!ขอทรงเมตตาและโอบอุ้มข้าพระองค์ให้พ้นจากประตูแห่งความตาย
14. เพื่อข้าพระองค์จะเปล่งเสียงสรรเสริญพระองค์ที่ประตูเมืองของธิดาแห่งศิโยนและปีติยินดีในความรอดของพระองค์ที่นั่น
15. ประชาชาติทั้งหลายได้ตกลงไปในหลุมที่พวกเขาขุดไว้เท้าของพวกเขาติดกับดักที่พวกเขาเองซ่อนไว้
16. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นที่รู้จักในด้านความยุติธรรมของพระองค์คนชั่วติดกับด้วยนมือของตนเองชิกกาโยน เสลาห์
17. คนชั่วกลับไปยังแดนผู้ตายคือทุกประชาชาติที่ลืมพระเจ้า
18. แต่พระเจ้าจะไม่ทรงลืมคนแร้นแค้นเลยความหวังของผู้ที่ทุกข์ลำเค็ญจะไม่สูญสิ้นเลย
19. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงลุกขึ้น ขออย่าให้มนุษย์ชนะขอทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติต่อหน้าพระองค์
20. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงทำให้เขาครั่นคร้ามยำเกรงให้ประชาชาติทั้งหลายรู้ว่าตนเป็นเพียงมนุษย์เสลาห์