3. องค์พระผู้เป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่ สมควรแก่การสรรเสริญเป็นที่สุดความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นไม่มีผู้ใดหยั่งคะเนได้
4. คนชั่วอายุหนึ่งจะยกย่องพระราชกิจของพระองค์ให้คนอีกชั่วอายุหนึ่งฟังพวกเขาจะเล่าขานถึงพระราชกิจอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
5. พวกเขาจะกล่าวถึงพระบารมีอันโอ่อ่าตระการของพระองค์และข้าพระองค์จะตรึกตรองถึงพระราชกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์
6. พวกเขาจะเล่าขานถึงฤทธานุภาพแห่งพระราชกิจอันน่าเกรงขามของพระองค์และข้าพระองค์จะประกาศพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
7. พวกเขาจะเฉลิมฉลองความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์และร้องเพลงด้วยความยินดีถึงความชอบธรรมของพระองค์
8. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสารทรงกริ้วช้า และเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง
9. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดีต่อทุกคนพระองค์ทรงรักเอ็นดูสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้น
10. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า สรรพสิ่งที่ทรงสร้างจะสรรเสริญพระองค์ประชากรของพระองค์จะยกย่องเทิดทูนพระองค์
11. พวกเขาจะกล่าวถึงพระเกียรติสิริแห่งพระราชอาณาจักรของพระองค์และเล่าถึงพระเดชานุภาพของพระองค์
12. เพื่อมวลมนุษย์จะรู้ถึงพระราชกิจอันทรงฤทธิ์และความโอ่อ่าตระการแห่งพระราชอาณาจักรของพระองค์
13. พระราชอาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรนิรันดร์พระองค์ทรงครอบครองอยู่ตลอดทุกชั่วอายุ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงซื่อสัตย์ต่อพระสัญญาทั้งสิ้น ที่ทรงให้ไว้และทรงเปี่ยมด้วยความรักต่อสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง
14. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประคองผู้ที่ล้มลงให้ลุกขึ้นและทรงยกชูผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน
15. ดวงตาของทุกชีวิตแหงนมองพระองค์และพระองค์ประทานอาหารให้ในเวลาที่เหมาะสม
16. พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์มาและทรงให้ทุกชีวิตได้อิ่มเอมสมปรารถนา
17. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชอบธรรมในทางทั้งปวงของพระองค์และทรงเปี่ยมด้วยความรักต่อสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้น
18. พระองค์ทรงอยู่ใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ที่ร้องทูลพระองค์ด้วยความสัตย์จริง
19. พระองค์ทรงสนองความต้องการของทุกคนที่ยำเกรงพระองค์พระองค์ทรงสดับฟังคำร้องทูลของเขาและทรงช่วยเขาให้รอด
20. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิทักษ์รักษาคนทั้งปวงที่รักพระองค์แต่จะทรงทำลายบรรดาคนชั่วทั้งปวง