12. เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนักน้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น
13. พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่งจากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง
14. พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขาเพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
15. “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”
16. พระองค์ทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในดินแดนนั้นและทำลายเสบียงอาหารทั้งสิ้นของเขา
17. และพระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขาโยเซฟถูกขายไปเป็นทาส
18. เท้าของเขาฟกช้ำเพราะถูกตีตรวนคอของเขาถูกค้ำอยู่ในคาเหล็ก
19. ตราบจนสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมาตราบจนพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าพิสูจน์ว่าเขาพูดจริง
20. ฟาโรห์ได้ส่งคนมาปล่อยตัวเขาประมุขของประชาชนปล่อยเขาเป็นอิสระ
21. ฟาโรห์ได้ตั้งเขาให้เป็นนายเหนือราชสำนักเป็นผู้ดูแลทุกสิ่งที่พระองค์ทรงครอบครอง
22. เพื่อชี้แนะเจ้านายทั้งหลายตามใจชอบและสั่งสอนปัญญาให้กับที่ปรึกษาของกษัตริย์
23. แล้วอิสราเอลเข้ามาอยู่ในอียิปต์ยาโคบมาเป็นคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
24. พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์มีลูกหลานมากมายพระองค์ทรงทำให้พวกเขามีจำนวนมากเกินไปสำหรับศัตรู
25. ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเปลี่ยนจิตใจของพวกเขาให้เกลียดประชากรของพระองค์ให้คบคิดกันต่อสู้กับผู้รับใช้ของพระองค์
26. พระองค์ทรงส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์มาพร้อมกับอาโรนผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรร
27. ทั้งสองแสดงหมายสำคัญของพระองค์ท่ามกลางพวกเขาแสดงปาฏิหาริย์ของพระองค์ในดินแดนของฮาม