50. พระเมตตาของพระองค์แผ่มาถึงบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์ทุกชั่วอายุสืบไป
51. พระองค์ทรงประกอบกิจอันยิ่งใหญ่ด้วยพระกรของพระองค์พระองค์ทรงกระทำให้ผู้ที่ผยองอยู่ในส่วนลึกของความคิดกระจัดกระจายไป
52. พระองค์ทรงปลดเจ้านายลงจากบัลลังก์แต่ทรงยกผู้ต่ำต้อยขึ้น
53. พระองค์ทรงให้ผู้หิวโหยอิ่มเอมด้วยสิ่งดีแต่ทรงส่งคนมั่งมีไปมือเปล่า
54. พระองค์ทรงช่วยอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ทรงไม่ลืมที่จะเมตตา
55. ต่ออับราฮัมและวงศ์วานของเขาตลอดไปตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้กับบรรพบุรุษของเรา”
56. มารีย์พักอยู่กับเอลีซาเบธราวสามเดือนแล้วจึงกลับบ้าน
57. เมื่อถึงกำหนดคลอด เอลีซาเบธก็ให้กำเนิดบุตรชาย
58. ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้ยินว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงความเมตตายิ่งใหญ่แก่นาง พวกเขาก็มาร่วมยินดี
59. ในวันที่แปดพวกเขามาร่วมพิธีเข้าสุหนัตของทารกนั้น และพวกเขากำลังจะตั้งชื่อให้ทารกนั้นว่าเศคาริยาห์ตามบิดา
60. แต่มารดาของเขาท้วงติงว่า “ไม่ได้! จะต้องเรียกเด็กคนนี้ว่ายอห์น”
61. พวกเขาบอกนางว่า “ในหมู่ญาติของท่านไม่มีใครใช้ชื่อนั้น”
62. แล้วพวกเขาทำท่าทางถามบิดาของทารกว่าต้องการตั้งชื่อลูกว่าอะไร
63. เขาจึงขอแผ่นกระดานมาเขียนลงไปว่า “ชื่อของเขาคือยอห์น” สร้างความประหลาดใจแก่คนทั้งหลาย
64. ทันใดนั้นปากของเขาก็เปิด ลิ้นของเขาก็หายติดขัด แล้วเขาก็เริ่มกล่าวสรรเสริญพระเจ้า
65. เพื่อนบ้านของเขาล้วนเต็มไปด้วยความเกรงกลัวและผู้คนพากันโจษจันเรื่องนี้ทั่วแดนเทือกเขาแห่งยูเดีย
66. ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ก็ประหลาดใจและถามกันว่า “ต่อไปทารกนี้จะเป็นอย่างไรหนอ?” เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับเขา