4. ความสุขมีแก่ผู้ที่โศกเศร้าเพราะเขาจะได้รับการปลอบประโลม
5. ความสุขมีแก่ผู้ที่ถ่อมสุภาพเพราะเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
6. ความสุขมีแก่ผู้ที่หิวกระหายความชอบธรรมเพราะเขาจะได้อิ่มบริบูรณ์
7. ความสุขมีแก่ผู้ที่เมตตากรุณาเพราะเขาจะได้รับความเมตตากรุณาตอบแทน
8. ความสุขมีแก่ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า
9. ความสุขมีแก่ผู้ที่สร้างสันติเพราะเขาจะได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า
10. ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรมเพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขาแล้ว
11. “ความสุขมีแก่ท่านเมื่อคนทั้งหลายสบประมาท ข่มเหง และใส่ร้ายป้ายสีท่านเพราะเรา
12. จงชื่นชมยินดีเถิดเพราะบำเหน็จของท่านในสวรรค์ยิ่งใหญ่นัก เพราะพวกเขาได้ข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน
13. “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือของโลก แต่ถ้าเกลือนั้นหมดความเค็มแล้วจะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร? มันก็ไม่มีประโยชน์อันใดอีกต่อไป มีแต่จะถูกสาดทิ้งให้คนเหยียบย่ำ
14. “ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้ไม่ได้
15. เช่นเดียวกัน เมื่อคนจุดตะเกียงแล้วย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียงให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน
16. ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อเขาจะเห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์