4. “แต่เจ้าจะต้องไม่กินเนื้อสัตว์พร้อมชีวิตของมัน คือเลือด
5. สำหรับเลือดอันเป็นชีวิตของพวกเจ้า เราจะให้มีการชดใช้อย่างแน่นอน เราจะให้สัตว์ทุกตัวชดใช้ และเราจะให้แต่ละคนชดใช้ชีวิตของพี่น้องเพื่อนมนุษย์เช่นกัน
6. “ใครก็ตามที่ฆ่าคนเขาก็จะถูกคนฆ่าเพราะพระเจ้าทรงสร้างคนขึ้นตามพระฉายของพระองค์
7. ส่วนเจ้าจงมีลูกมีหลานมากมายเพิ่มจำนวนทวีขึ้นบนแผ่นดินโลก”
8. แล้วพระเจ้าตรัสกับโนอาห์และบุตรของเขาว่า
9. “บัดนี้เราเองเป็นผู้ทำพันธสัญญากับเจ้าและกับเชื้อสายของเจ้า
10. ตลอดจนสัตว์ทุกตัวที่อยู่กับเจ้าคือ นก สัตว์ใช้งาน และสัตว์ป่า และสัตว์ทั้งปวงที่ออกจากเรือ คือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกนี้
11. เราทำพันธสัญญากับเจ้าว่าจะไม่ให้น้ำท่วมทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอีกเลยและจะไม่ให้น้ำท่วมทำลายโลกอีกต่อไป”
12. และพระเจ้าตรัสว่า “นี่คือเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่เรากำลังทำระหว่างเรากับเจ้าและกับสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่อยู่กับเจ้า เป็นพันธสัญญาที่ผูกพันตลอดทุกชั่วอายุคน
13. คือเราได้ตั้งรุ้งของเราไว้ที่หมู่เมฆ เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาของเรากับโลก
14. ทุกครั้งที่เราส่งเมฆมาเหนือโลก และรุ้งปรากฏขึ้นที่เมฆ
15. เราจะระลึกถึงพันธสัญญาระหว่างเรากับเจ้าและกับสรรพสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิดว่าจะไม่ให้น้ำท่วมทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอีกเลย
16. เมื่อใดที่รุ้งปรากฏบนเมฆ รุ้งจะเตือนให้เราระลึกถึงพันธสัญญานิรันดร์ระหว่างพระเจ้ากับสรรพสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิดบนโลก”
17. พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์ว่า “นี่คือเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้ระหว่างเรากับทุกชีวิตบนโลก”
18. บุตรของโนอาห์ที่ออกมาจากเรือคือ เชม ฮาม และยาเฟท (ฮามเป็นบิดาของคานาอัน)
19. นี่คือบุตรทั้งสามของโนอาห์ ประชาชาติที่กระจายไปทั่วโลกถือกำเนิดจากพวกเขา
20. โนอาห์เป็นชาวไร่ชาวนา เขาเริ่มทำสวนองุ่น
21. เมื่อเขาดื่มเหล้าองุ่นแล้ว เขาก็เมาและนอนเปลือยกายอยู่ในเต็นท์ของเขา
22. ฮามผู้เป็นบิดาของคานาอันเห็นบิดาเปลือยกายจึงบอกพี่ชายทั้งสองของเขาที่อยู่ข้างนอก
23. แต่เชมกับยาเฟทเอาเสื้อผ้าพาดบ่า เดินถอยหลังเข้ามาในเต็นท์ เอาผ้าคลุมปกปิดร่างอันเปลือยเปล่าของบิดา เขาทั้งสองหันหน้าไปทางอื่นเพื่อจะได้ไม่เห็นความเปลือยเปล่าของบิดา
24. เมื่อโนอาห์สร่างเมาและรู้ถึงสิ่งที่บุตรคนสุดท้องได้ทำต่อเขา