3. เมื่อนายเห็นว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสำเร็จในทุกสิ่งที่เขาทำ
4. โยเซฟจึงเป็นที่โปรดปรานและกลายเป็นคนสนิทของนาย โปทิฟาร์จึงตั้งให้โยเซฟดูแลครัวเรือนของเขา และมอบทุกสิ่งที่เขามีอยู่ไว้ในมือของโยเซฟ
5. ตั้งแต่นายมอบหมายให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งในครัวเรือนและทุกสิ่งที่เขามี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรครอบครัวของคนอียิปต์นั้นเพราะเห็นแก่โยเซฟ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรทุกสิ่งของโปทิฟาร์ทั้งในบ้านและในทุ่งนา
6. ดังนั้นโปทิฟาร์จึงไว้ใจให้โยเซฟดูแลทุกสิ่งที่เขามี เมื่อมีโยเซฟเป็นผู้ดูแล เขาไม่ต้องรับรู้เรื่องใดเลย เว้นแต่อาหารที่จะรับประทานโยเซฟเป็นชายรูปหล่อหุ่นดี
7. จากนั้นไม่นานภรรยาของเจ้านายจ้องมองโยเซฟตาเป็นมัน นางจึงชวนเขาว่า “มานอนกับฉันสิ!”
8. แต่โยเซฟปฏิเสธและกล่าวกับนางว่า “ภายใต้การดูแลของข้า นายไม่ต้องรับรู้เรื่องใดในบ้านเลย ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ นายก็มอบให้ข้าจัดการ
9. ในบ้านนี้ไม่มีใครใหญ่เกินข้า เจ้านายของข้าไม่หวงสิ่งใดกับข้านอกจากท่าน เพราะท่านเป็นภรรยาของนาย ข้าจะทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้และทำบาปต่อพระเจ้าได้อย่างไร?”
10. แม้นางชวนโยเซฟวันแล้ววันเล่า เขาก็ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับนางหรือแม้แต่จะอยู่ใกล้นาง
11. วันหนึ่งขณะที่โยเซฟเข้าไปในบ้านเพื่อทำงานตามหน้าที่ของเขา ขณะนั้นไม่มีคนรับใช้อื่นๆ อยู่ในบ้านเลย
12. ภรรยาของโปทิฟาร์เข้ามากระชากเสื้อของโยเซฟไว้แล้วบอกว่า “มานอนกับฉันเถิด!” แต่เขาทิ้งเสื้อไว้ในมือของนางแล้ววิ่งหนีออกไปนอกบ้าน
13. เมื่อนางเห็นว่าเสื้อของโยเซฟอยู่ในมือ และตัวเขาวิ่งออกไปนอกบ้านแล้ว
14. นางจึงเรียกคนรับใช้คนอื่นๆ ในบ้านมาและกล่าวว่า “ดูสิ สามีฉันนำเจ้าฮีบรูคนนี้มาหยามพวกเรา มันเข้ามาที่นี่และจะหลับนอนกับข้า แต่ข้ากรีดร้องขึ้น
15. เมื่อมันได้ยินข้าร้องขอความช่วยเหลือ มันจึงทิ้งเสื้อไว้ข้างตัวข้าแล้ววิ่งหนีออกจากบ้านไป”
16. นางเก็บเสื้อตัวนั้นไว้จนกระทั่งสามีกลับมาบ้าน