ปฐมกาล 27:33-46 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

33. อิสอัคก็โกรธจนตัวสั่นและกล่าวว่า “แล้วใครกันเล่าที่ได้ล่าเนื้อและนำมาให้พ่อ? พ่อเพิ่งกินไปก่อนที่เจ้าจะมา และพ่อได้อวยพรเขา และเขาจะได้รับพรแน่!”

34. เมื่อเอซาวได้ยินบิดาพูดเช่นนั้นก็ร้องไห้เสียงดังด้วยความขมขื่นและพูดกับบิดาว่า “อวยพรลูก อวยพรลูกด้วยเถิดพ่อ”

35. แต่อิสอัคกล่าวว่า “น้องชายของเจ้ามาหลอกเอาพรของเจ้าไปแล้ว”

36. เอซาวพูดว่า “ที่เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ? เขาได้หลอกลูกมาสองครั้งแล้ว เขาได้เอาสิทธิ์บุตรหัวปีของลูกไป และคราวนี้ยังได้เอาพรของลูกไปอีก!” แล้วเขาถามว่า “พ่อไม่มีพรเหลือให้ลูกบ้างเลยหรือ?”

37. อิสอัคตอบเอซาวว่า “พ่อได้ตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และให้ญาติพี่น้องของเขาทั้งหมดเป็นคนรับใช้เขา พ่อขอให้พระเจ้าค้ำจุนเขาด้วยข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ แล้วพ่อจะทำอะไรเพื่อเจ้าได้อีกเล่า ลูกของพ่อเอ๋ย?”

38. เอซาวกล่าวกับบิดาอีกว่า “พ่อมีเพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ? พ่อของลูก โปรดอวยพรลูกด้วยเถิด พ่อของลูก!” แล้วเอซาวก็ร้องไห้เสียงดัง

39. อิสอัคบิดาของเขาตอบว่า“ที่อาศัยของเจ้าจะห่างไกลจากฝนบนแผ่นดินจากน้ำค้างแห่งฟ้าสวรรค์เบื้องบน

40. เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบและเจ้าจะรับใช้น้องของเจ้าแต่เมื่อเจ้าทนไม่ได้เจ้าจะสลัดแอกของเขาพ้นจากคอของเจ้า”

41. เอซาวเก็บความแค้นที่มีต่อยาโคบไว้ เพราะพรที่บิดาได้ให้ยาโคบ เขาบอกกับตนเองว่า “วันไว้ทุกข์ให้พ่อก็ใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนั้นเราจะฆ่ายาโคบน้องชายของเรา”

42. เมื่อมีคนมาบอกเรเบคาห์ว่าเอซาวบุตรชายคนโตของนางพูดว่าอย่างไร นางจึงเรียกยาโคบบุตรชายคนเล็กมา และกล่าวกับเขาว่า “เอซาวพี่ชายของเจ้ากำลังวางแผนจะฆ่าเจ้าเป็นการล้างแค้น

43. ลูกเอ๋ย บัดนี้จงทำตามที่แม่สั่ง จงรีบหนีไปหาลาบันพี่ชายของแม่ที่เมืองฮาราน

44. ไปพักกับเขาสักระยะหนึ่งจนกว่าความโกรธเกรี้ยวของพี่เจ้าจะคลายลง

45. เมื่อพี่ชายของเจ้าหายโกรธและลืมสิ่งที่เจ้าทำไว้กับเขา แม่ก็จะส่งคนไปตามลูกกลับมาจากที่นั่น แม่ไม่อยากเสียลูกทั้งสองคนไปในวันเดียว”

46. แล้วเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันจะทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะผู้หญิงชาวฮิตไทต์เหล่านี้ ถ้ายาโคบหาภรรยาจากหญิงในดินแดนนี้ จากหญิงชาวฮิตไทต์อย่างนี้ ชีวิตของฉันก็ไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อไป”

ปฐมกาล 27