5. พระเจ้าทรงเรียกความสว่างว่า “วัน” และเรียกความมืดว่า “คืน” เวลาเย็นและเวลาเช้าผ่านไป นี่เป็นวันที่หนึ่ง
6. และพระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดแผ่นฟ้าในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน”
7. พระเจ้าจึงทรงสร้างแผ่นฟ้าแยกน้ำออกจากกันเป็นส่วนบนและส่วนล่าง ก็เป็นไปตามนั้น
8. พระเจ้าทรงเรียกแผ่นฟ้านั้นว่า “ท้องฟ้า” เวลาเย็นและเวลาเช้าผ่านไป นี่เป็นวันที่สอง
9. และพระเจ้าตรัสว่า “ให้น้ำใต้ท้องฟ้ารวมเข้าในที่เดียวกัน และที่แห้งจงปรากฏขึ้น” ก็เป็นไปตามนั้น
10. พระเจ้าทรงเรียกที่แห้งนั้นว่า “แผ่นดิน” และทรงเรียกที่น้ำนั้นมารวมกันว่า “ทะเล” และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
11. แล้วพระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดพืชพันธุ์บนแผ่นดินเช่น พืชที่ให้เมล็ด และต้นไม้ที่มีเมล็ดในผลของมัน ตามชนิดต่างๆ ของมัน” ก็เป็นไปตามนั้น
12. แผ่นดินก็เกิดพืชพันธุ์ คือพืชที่ให้เมล็ดและต้นไม้ที่มีเมล็ดซึ่งให้ผลตามชนิดของมัน และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
13. เวลาเย็นและเวลาเช้าผ่านไป นี่เป็นวันที่สาม
14. และพระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดดวงสว่างต่างๆ ขึ้นในแผ่นฟ้า เพื่อแยกกลางวันจากกลางคืน ให้เป็นเครื่องหมายบอกฤดู บอกวัน บอกปี
15. และให้ดวงสว่างเหล่านั้นอยู่บนแผ่นฟ้าเพื่อให้แสงสว่างแก่โลก” ก็เป็นไปตามนั้น
16. ฉะนั้นพระเจ้าทรงสร้างดวงสว่างขนาดใหญ่สองดวง ให้ดวงที่ใหญ่กว่าครอบครองกลางวัน และดวงที่เล็กกว่าครอบครองกลางคืน ทั้งทรงสร้างดวงดาวต่างๆ มากมาย
17. พระเจ้าทรงกำหนดตำแหน่งของมันไว้ในแผ่นฟ้าเพื่อให้แสงสว่างแก่โลก
18. เพื่อครอบครองกลางวันและกลางคืน เพื่อแยกความสว่างออกจากความมืด และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
19. เวลาเย็นและเวลาเช้าผ่านไป นี่เป็นวันที่สี่
20. และพระเจ้าตรัสว่า “จงให้น้ำเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆ และนกนานาชนิดบินไปมาในท้องฟ้า”
21. ฉะนั้นพระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่คลาคล่ำอยู่ในน้ำตามชนิดของมัน และนกต่างๆ ที่บินได้ตามชนิดของมัน และพระเจ้าทรงเห็นว่าดี