5. เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของเยโฮยาคิมและพระราชกิจทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ?
6. เยโฮยาคิมทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและเยโฮยาคีนโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน
7. ฟาโรห์แห่งอียิปต์ไม่ได้ยกทัพกลับมาอีก เพราะกษัตริย์บาบิโลนทรงยึดดินแดนทั้งหมดของพระองค์ตั้งแต่ลำน้ำแห่งอียิปต์จดแม่น้ำยูเฟรติส
8. เมื่อเยโฮยาคีนขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงมีพระชนมายุสิบแปดพรรษา และทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มสามเดือน ราชมารดาคือเนหุชทาธิดาของเอลนาธันจากเยรูซาเล็ม
9. เยโฮยาคีนทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนที่บรรพบุรุษของพระองค์ได้ทรงทำ
10. ในรัชกาลนี้เอง กองทัพของเนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนบุกมาล้อมกรุงเยรูซาเล็มไว้
11. ระหว่างที่ล้อมอยู่นั้น เนบูคัดเนสซาร์เองเสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม
12. กษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์ ราชมารดา และขุนนางข้าราชการทั้งปวงยอมจำนนแก่เนบูคัดเนสซาร์ในปีที่แปดแห่งรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ เยโฮยาคีนถูกจับไปเป็นเชลย
13. ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ เนบูคัดเนสซาร์ริบเอาสมบัติทั้งปวงจากพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระราชวังกลับไป ตลอดจนภาชนะเครื่องใช้ทองคำทั้งหมดซึ่งกษัตริย์โซโลมอนแห่งอิสราเอลให้ทำขึ้นเพื่อใช้ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย
14. เนบูคัดเนสซาร์ทรงจับกุมเชลยหนึ่งหมื่นคนไปจากกรุงเยรูซาเล็ม มีทั้งข้าราชการ นักรบ ช่างฝีมือ และช่างโลหะต่างๆ เหลือไว้แต่ราษฎรที่ยากไร้ที่สุด
15. เนบูคัดเนสซาร์ทรงจับกุมตัวเยโฮยาคีนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน รวมทั้งเหล่ามเหสี ราชมารดา ข้าราชการ และชนชั้นผู้นำของยูดาห์ด้วย
16. ทั้งทรงคุมตัวเหล่านักรบทั้งหมดเจ็ดพันคนไปยังบาบิโลน ล้วนแต่แข็งแรงและพร้อมที่จะออกรบ และช่างโลหะกับช่างฝีมืออีกหนึ่งพันคน
17. จากนั้นทรงแต่งตั้งมัททานิยาห์ ลุงของเยโฮยาคีนให้เป็นกษัตริย์แทนและเปลี่ยนพระนามเป็นเศเดคียาห์
18. เมื่อเศเดคียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 21 พรรษา และทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี ราชมารดาคือฮามุทาลธิดาของเยเรมีย์จากลิบนาห์
19. เศเดคียาห์ทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนที่เยโฮยาคิมได้ทรงทำ
20. เนื่องด้วยพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จึงเกิดขึ้นกับกรุงเยรูซาเล็มและยูดาห์ และในที่สุดพระองค์ทรงเหวี่ยงพวกเขาพ้นจากพระพักตร์ของพระองค์