8. ดังนั้นอย่าละอายที่จะเป็นพยานเรื่ององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราหรือละอายในตัวของข้าพเจ้าผู้ถูกจองจำเพื่อพระองค์ แต่จงร่วมทนทุกข์กับข้าพเจ้าเพื่อข่าวประเสริฐโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
9. ผู้ทรงช่วยเราให้รอดและทรงเรียกเรามาสู่ชีวิตอันบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพราะการกระทำใดๆ ของเราแต่เพราะพระประสงค์และพระคุณของพระองค์เอง พระคุณนี้ได้ประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ตั้งแต่ก่อนจุดเริ่มต้นของเวลา
10. แต่บัดนี้ทรงให้ประจักษ์แจ้งโดยการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ผู้ได้ทรงทำลายความตายและทรงนำชีวิตกับความเป็นอมตะมาสู่ความสว่างโดยทางข่าวประเสริฐ
11. และทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าให้เป็นผู้ป่าวประกาศ เป็นอัครทูต และเป็นผู้สอนข่าวประเสริฐนี้
12. นั่นเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าทนทุกข์อย่างที่เป็นอยู่ กระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอายเพราะข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าเชื่อ และมั่นใจว่าพระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่งที่ข้าพเจ้ามอบไว้กับพระองค์จนถึงวันนั้นได้
13. จงยึดถือแบบอย่างของคำสอนอันมีหลักที่ท่านได้ยินจากข้าพเจ้าด้วยความเชื่อและความรักในพระเยซูคริสต์
14. สำหรับความจริงแห่งข่าวประเสริฐที่ท่านได้รับมอบหมายไว้นั้น จงพิทักษ์รักษาไว้โดยการช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในเราทั้งหลาย
15. ท่านก็ทราบว่าทุกคนในแคว้นเอเชียทิ้งข้าพเจ้าไปหมด รวมทั้งฟีเจลัสกับเฮอร์โมเกเนส
16. ขอพระเจ้าทรงสำแดงพระเมตตาแก่ครอบครัวของโอเนสิโฟรัสเพราะเขาทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจบ่อยครั้งและไม่ละอายเลยที่ข้าพเจ้าถูกจองจำอยู่
17. ตรงกันข้ามเมื่อเขาอยู่ในกรุงโรม เขาพยายามเที่ยวสืบหาข้าพเจ้าจนพบ
18. ขอพระเจ้าทรงให้เขาได้รับพระเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนั้นด้วยเถิด! ท่านก็ทราบดีว่าเมื่ออยู่ที่เมืองเอเฟซัสเขาได้ช่วยเหลือข้าพเจ้าในหลายๆ ด้าน