29. เขาสลักรูปสิงโต วัว และเครูบไว้บนกรอบและบนผนังนั้น ด้านบนและล่างของสิงโตและวัวเป็นลวดลายพวงมาลาที่สลักลายด้วยค้อน
30. แต่ละแท่นมีล้อทองสัมฤทธิ์สี่ล้อและเพลาทองสัมฤทธิ์ แต่ละแท่นรองรับอ่างซึ่งตั้งอยู่บนที่หนุนทั้งสี่ ซึ่งหล่อขึ้นโดยมีพวงมาลาประดับแต่ละด้าน
31. ภายในแท่นนี้มีช่องเปิดเป็นรูปทรงกลมลึก 1 ศอก วัดรอบช่องเปิดทรงกลมรวมฐานได้ 1 ศอกครึ่ง มีลายสลักรอบช่องเปิด ผนังของแท่นตั้งเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ใช่วงกลม
32. ล้อทั้งสี่อยู่ใต้ผนัง และเพลาล้อติดเข้ากับตัวแท่น เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ 1 ศอกครึ่ง
33. ล้อทำขึ้นคล้ายกับล้อรถรบ ทั้งเพลา ซี่ล้อ ขอบและดุมล้อล้วนหล่อขึ้นจากโลหะ
34. แต่ละแท่นมีที่จับที่มุมทั้งสี่ มุมละอัน ยื่นออกมาจากแท่น
35. ที่ด้านบนของแท่นมีปลอกทรงกลมลึกครึ่งศอก ทั้งที่หนุนกับผนังยึดติดเข้ากับด้านบนของแท่น
36. เขาสลักรูปเครูบ สิงโต ต้นอินทผลัม บนพื้นผิวของที่หนุนและบนผนังตลอดจนที่ว่างทุกแห่ง และมีพวงมาลาอยู่โดยรอบ
37. แท่นทั้งสิบสร้างขึ้นตามนี้ โดยมีขนาดและรูปทรงเดียวกัน หล่อจากพิมพ์เดียวกัน
38. จากนั้นเขาทำอ่างทองสัมฤทธิ์สิบใบ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ศอก ตั้งไว้บนแท่น แท่นละใบ แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณ 880 ลิตร
39. เขาตั้งแท่นเหล่านี้ไว้ที่ด้านใต้ของพระวิหารห้าแท่นและด้านเหนือห้าแท่น ส่วนขันสาครนั้นอยู่ทางด้านใต้ที่มุมด้านตะวันออกเฉียงใต้ของพระวิหาร
40. เขายังได้ทำชาม อ่าง ทัพพี และชามประพรมด้วยในที่สุดหุรามจึงทำงานทั้งหมดที่กษัตริย์โซโลมอนทรงมอบหมายในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำเร็จครบถ้วน ได้แก่
41. เสาหานสองต้นหัวเสารูปบัวคว่ำสองหัวตาข่ายประดับหัวเสาสองชุด