1พงศ์กษัตริย์ 22:31-42 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

31. ฝ่ายกษัตริย์อารัมได้ทรงบัญชาผู้บัญชาการรถรบ 32 คนของพระองค์ว่า “อย่าต่อสู้กับใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย แต่จงต่อสู้กับกษัตริย์อิสราเอลเพียงองค์เดียวเท่านั้น”

32. เมื่อผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นเยโฮชาฟัท พวกเขาก็คิดว่า “นี่เป็นกษัตริย์อิสราเอลแน่ๆ” จึงหันมาโจมตี แต่เมื่อเยโฮชาฟัทร้องตะโกนออกมา

33. ผู้บัญชาการรถรบเหล่านั้นเห็นว่าไม่ใช่กษัตริย์อิสราเอล ก็เลิกไล่ล่าพระองค์

34. แต่มีคนหนึ่งยิงธนูสุ่มไปถูกกษัตริย์อิสราเอลตรงช่วงรอยต่อของเสื้อเกราะ พระองค์จึงตรัสกับพลขับว่า “จงกลับรถพาเราออกจากสนามรบ เราบาดเจ็บแล้ว”

35. สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน กษัตริย์ทรงประคองตัวไว้ในรถม้าศึกให้ประจันหน้ากับชาวอารัม พระโลหิตจากบาดแผลไหลนองพื้นรถ ครั้นตกเย็นก็สิ้นพระชนม์

36. ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับไป มีเสียงร้องบอกไปทั่วกองทัพว่า “ทุกคนกลับบ้านเมืองของตนเถิด!”

37. ดังนั้นกษัตริย์อาหับก็สิ้นพระชนม์ และพระศพถูกนำกลับมาฝังไว้ที่สะมาเรีย

38. เมื่อพวกเขาล้างรถม้าศึกที่สระในสะมาเรีย (ซึ่งพวกหญิงโสเภณีมาอาบน้ำ) สุนัขก็มาเลียพระโลหิตของกษัตริย์ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลั่นวาจาไว้แล้ว

39. เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของอาหับ พระราชกิจทุกอย่าง พระราชวังที่ทรงสร้างและตกแต่งด้วยงาช้าง และเมืองต่างๆ ที่ทรงเสริมปราการ มีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ?

40. อาหับทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและอาหัสยาห์โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

41. เยโฮชาฟัทโอรสของอาสาขึ้นครองราชย์ในยูดาห์ ตรงกับปีที่สี่ของรัชกาลกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล

42. เยโฮชาฟัทมีพระชนมายุ 35 พรรษาเมื่อขึ้นครองราชย์ และทรงปกครองในกรุงเยรูซาเล็มอยู่ 25 ปี ราชมารดาคืออาซูบาห์ธิดาของชิลหิ

1พงศ์กษัตริย์ 22