13. แต่เราจะไม่ริบไปหมดทั้งอาณาจักร เราจะเหลือชนเผ่าหนึ่งไว้ให้ เพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา และเยรูซาเล็มที่เราได้เลือกสรรไว้”
14. แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำให้ศัตรูคนหนึ่งแข็งกร้าวต่อโซโลมอนคือฮาดัด ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่งของเอโดม
15. ก่อนหน้านี้เมื่อดาวิดรบกับเอโดม แม่ทัพโยอาบซึ่งขึ้นมาฝังศพผู้ตายในสงครามได้สังหารผู้ชายทั้งปวงในเอโดม
16. โยอาบและชนอิสราเอลทั้งปวงอยู่ที่นั่นหกเดือน จนสังหารชายชาวเอโดมได้ทั้งหมด
17. แต่ฮาดัดซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กพร้อมกับข้าราชการเอโดมบางคนที่รับใช้บิดาของเขาได้หนีไปอียิปต์
18. พวกเขาพากันเล็ดลอดออกจากมีเดียนหนีไปยังปาราน แล้วมีคนจากปารานมาสมทบ ติดตามกันไปถึงอียิปต์ ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ได้ประทานบ้าน ที่ดิน และอาหารให้ฮาดัด
19. ฟาโรห์โปรดปรานฮาดัดมาก จึงยกน้องสาวของมเหสีทาห์เปเนสให้เป็นภรรยา
20. นางได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อเกนูบัท ซึ่งมเหสีทาห์เปเนสได้ชุบเลี้ยงให้เติบโตขึ้นในพระราชวัง ร่วมกับโอรสทั้งหลายของฟาโรห์
21. เมื่อฮาดัดได้ข่าวว่าดาวิดและแม่ทัพโยอาบสิ้นชีพแล้ว ฮาดัดทูลขออนุญาตฟาโรห์ว่า “ขอให้ข้าพระบาทได้กลับไปบ้านเมืองของข้าพระบาทเถิด”
22. ฟาโรห์ตรัสถามว่า “อยู่ที่นี่เจ้าขาดแคลนอะไรหรือถึงอยากกลับไปบ้านเมืองของเจ้า?”ฮาดัดทูลว่า “ข้าพระบาทไม่ขาดสิ่งใดเลย แต่โปรดให้ข้าพระบาทไปเถิด!”
23. ศัตรูอีกคนหนึ่งของโซโลมอนซึ่งพระเจ้าทรงยกให้มีอำนาจขึ้นคือเรโซนบุตรเอลียาดา ซึ่งหนีมาจากฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์แห่งโศบาห์ผู้เป็นนาย
24. เมื่อดาวิดทำลายกองกำลังของเมืองโศบาห์ เรโซนได้รวบรวมผู้คนและตั้งตนเป็นหัวหน้ากองโจร พากันหนีไปยังดามัสกัส ที่ซึ่งเขาตั้งรกรากและยึดครองได้
25. ตลอดพระชนม์ชีพของโซโลมอน เรโซนคือศัตรูของอิสราเอล นอกเหนือจากความทุกข์ร้อนอันเนื่องมาจากฮาดัด เรโซนปกครองอยู่ในอารัมและเป็นศัตรูต่ออิสราเอล
26. เยโรโบอัมบุตรเนบัทก็กบฏต่อกษัตริย์ด้วย เขาเป็นข้าราชการคนหนึ่งของโซโลมอน เป็นคนเผ่าเอฟราอิมจากเศเรดาห์ มารดาเป็นหญิงม่ายชื่อเศรุวาห์