28. กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า “เรียกบัทเชบามานี่สิ” พระนางจึงเข้ามายืนอยู่ต่อหน้า
29. แล้วกษัตริย์ตรัสปฏิญาณว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงช่วยเหลือเราให้พ้นจากความยากลำบากทั้งปวงนั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด
30. วันนี้เราจะทำตามที่ได้ปฏิญาณไว้กับเจ้าในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลฉันนั้น คือโซโลมอนลูกของเจ้าจะได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากเรา และจะครองบัลลังก์แทนเรา”
31. บัทเชบาจึงหมอบซบลงกับพื้น และคุกเข่าทูลว่า “ขอให้กษัตริย์ดาวิดเจ้านายของหม่อมฉันทรงพระเจริญเป็นนิตย์!”
32. กษัตริย์ดาวิดตรัสสั่งว่า “จงเรียกปุโรหิตศาโดก ผู้เผยพระวจนะนาธัน และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดามา” เมื่อพวกเขามาถึง
33. กษัตริย์ตรัสกับพวกเขาว่า “จงนำข้าราชบริพารของเราไปกับเจ้า และให้ลูกโซโลมอนขี่ล่อของเราไปที่กีโฮน
34. ให้ปุโรหิตศาโดกและผู้เผยพระวจนะนาธันเจิมตั้งเขาเป็นกษัตริย์อิสราเอลที่นั่น จงเป่าแตรและโห่ร้องว่า ‘กษัตริย์โซโลมอนจงทรงพระเจริญ!’
35. จากนั้นจงกลับมากับเขา ให้เขานั่งบนบัลลังก์ครองราชย์แทนเรา เราได้แต่งตั้งเขาเป็นกษัตริย์อิสราเอลและยูดาห์”
36. เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาทูลว่า “อาเมน ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของฝ่าพระบาททรงประกาศเช่นนั้นเถิด
37. ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับโซโลมอนเหมือนที่สถิตกับฝ่าพระบาทมาแล้ว เพื่อกระทำให้ราชบัลลังก์ของพระองค์ยิ่งใหญ่กว่าของกษัตริย์ดาวิดเจ้านายของข้าพระบาท!”
38. ฉะนั้นปุโรหิตศาโดก ผู้เผยพระวจนะนาธัน เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา พวกเคเรธีและเปเลทจึงลงไปเชิญโซโลมอนประทับบนล่อของดาวิดและนำเสด็จไปยังกีโฮน
39. ปุโรหิตศาโดกนำน้ำมันจากพลับพลาศักดิ์สิทธิ์บรรจุในเขาสัตว์มาเจิมตั้งโซโลมอน แล้วพวกเขาเป่าแตรและคนทั้งปวงโห่ร้องว่า “ขอกษัตริย์โซโลมอนจงทรงพระเจริญ!”
40. จากนั้นเขาทั้งปวงตามเสด็จโซโลมอนกลับมา มีการเป่าขลุ่ยครึกครื้นรื่นเริงเป็นการใหญ่ เสียงสนั่นหวั่นไหวจนแผ่นดินสะท้าน
41. อาโดนียาห์และแขกรับเชิญทั้งปวงได้ยินเสียงกระหึ่มขณะกำลังจะเสร็จสิ้นงานเลี้ยง เมื่อได้ยินเสียงแตร โยอาบถามว่า “เหตุใดจึงมีเสียงอึกทึกครึกโครมทั่วเมืองนี้?”