17. พวกเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติสุข” (อิสยาห์ 59:7-8)
18. “เขาไม่เคยคิดที่จะเกรงกลัวพระเจ้าเลย” (สดุดี 36:1)
19. เรารู้แล้วว่า ทุกอย่างที่กฎบอก ก็เพื่อบอกกับคนที่อยู่ภายใต้กฎนั้น เพื่อปิดปากทุกคนไม่ให้มีข้อแก้ตัว และเพื่อทุกคนในโลกจะต้องอยู่ภายใต้การตัดสินของพระเจ้า
20. ไม่มีใครหรอกที่พระเจ้าจะยอมรับเนื่องจากทำสิ่งที่กฎบอกให้ทำ เพราะกฎนั้นมีไว้ชี้ให้เราเห็นถึงความบาปของตัวเอง
21. แต่ตอนนี้ พระเจ้าได้เปิดเผยให้เห็นว่าพระองค์นั้นซื่อสัตย์และทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ โดยไม่เกี่ยวข้องกับกฎเลย แต่ว่าทั้งกฎและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้เป็นพยานถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์
22. พระเจ้าทำให้เราเห็นว่าพระองค์นั้นซื่อสัตย์ และทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ พระองค์ทำอย่างนี้ผ่านทางความซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนที่ไว้วางใจ ไม่มีใครแตกต่างกันเลย
23. เพราะทุกคนทำบาปเหมือนกันหมด และชีวิตของเขาขาดศักดิ์ศรีที่มาจากพระเจ้า
24. พระเจ้ามีความเมตตากรุณาและพระองค์ยอมรับทุกคนมาเป็นคนของพระองค์โดยไม่คิดมูลค่า และเพราะสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ทำ พระเจ้าได้ปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสของบาป
25. พระเจ้าให้พระเยซูคริสต์เป็นเครื่องบูชาเพื่อจัดการกับบาป ที่พระเจ้าทำอย่างนี้ได้ก็เพราะพระเยซูนั้นซื่อสัตย์ และยอมที่จะหลั่งเลือดและตาย การที่พระเจ้าให้พระเยซูเป็นเครื่องบูชา ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์นั้นซื่อสัตย์และทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เพราะพระองค์อดทน และไม่ได้ลงโทษคนที่ทำบาปในอดีต