9. กษัตริย์ดาวิดพูดเรื่องเดียวกันนี้ว่า“ขอให้งานเลี้ยงต่างๆของพวกเขาเป็นหลุมพรางและกับดักขอให้พวกเขาล้มลงและได้รับกรรมที่ทำไว้
10. ขอให้ตาของพวกเขามืดบอดจนมองไม่เห็นและขอให้พระองค์ทำให้หลังของพวกเขางอจากการแบกปัญหาตลอดไป” (สดุดี 69:22-23)
11. ผมขอถามหน่อยว่า พวกคนยิวสะดุดล้มลงจนเยียวยาไม่ได้เลยหรือ ไม่ใช่เลย แต่ตรงกันข้าม เพราะความผิดพลาดของคนยิว จึงทำให้คนที่ไม่ใช่ยิวได้รับความรอด ที่เป็นอย่างนี้เพราะพระเจ้าอยากจะทำให้คนยิวอิจฉา
12. แต่ถ้าการที่คนยิวทำผิดพลาดและล้มเหลว ยังทำให้โลกนี้และคนที่ไม่ใช่ยิวได้รับพระพรมากมายขนาดนี้ คิดดูสิว่า ถ้าคนยิวกลับมาครบถ้วน โลกนี้จะได้รับพระพรขนาดไหน
13. ผมกำลังพูดกับพวกคุณคนที่ไม่ใช่ยิว เพราะพระเจ้าได้ตั้งให้ผมเป็นศิษย์เอก สำหรับคนที่ไม่ใช่ยิว ผมตั้งใจที่จะให้งานรับใช้ของผมนี้โด่งดังไปทั่ว
14. เพื่อทำให้พี่น้องยิวของผมอิจฉา เผื่อจะช่วยให้พวกเขาบางคนรอดได้
15. เพราะถ้าโลกนี้ได้กลับมาคืนดีกับพระเจ้า เมื่อพระองค์ทอดทิ้งพวกยิว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพระเจ้ายอมรับพวกยิว ก็จะเกิดการฟื้นขึ้นจากความตายนะสิ
16. ถ้าแป้งส่วนที่แบ่งออกมาถวายเป็นส่วนแรกนั้นเป็นของพระองค์ ส่วนที่เหลือทั้งก้อนก็ต้องเป็นของพระองค์ด้วย และถ้ารากของต้นไม้เป็นของพระองค์ กิ่งก้านของมันก็ต้องเป็นของพระองค์ด้วย
17. แต่ถ้ากิ่งบางกิ่งถูกหักทิ้งไป แล้วเอาคุณที่เป็นกิ่งมะกอกป่ามาต่อเข้าไปแทน คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งของต้นมะกอกต้นนั้น และได้รับการหล่อเลี้ยงจากรากของมัน
18. คุณไม่ควรจะคุยโวข่มกิ่งที่ถูกหักทิ้งไป แต่ถ้าคุณคุยโวให้จำไว้ว่า คุณไม่ได้เป็นคนหล่อเลี้ยงราก รากต่างหากที่หล่อเลี้ยงคุณ
19. คุณอาจจะพูดว่า “กิ่งพวกนั้นถูกหักทิ้งไป ก็เพื่อจะได้เอาผมต่อเข้าไปแทน”
20. ถูกแล้ว ที่พวกเขาถูกหักทิ้งไปเพราะพวกเขาไม่ไว้วางใจ แต่คุณยังอยู่ได้เพราะคุณไว้วางใจ เพราะฉะนั้นอย่าเหลิง แต่ให้ระวังตัวให้ดี
21. เพราะถ้าพระเจ้าไม่ได้เว้นโทษกิ่งเดิมของต้นมันเอาไว้ พระองค์ก็จะไม่เว้นโทษคุณเหมือนกัน
22. ดูสิ พระเจ้านั้นทั้งเมตตาและเด็ดขาด พระองค์เด็ดขาดกับคนที่หลงผิด แต่มีเมตตากับคุณ ถ้าคุณยังคงอยู่ในความเมตตาของพระองค์ ไม่อย่างนั้น คุณก็จะถูกตัดทิ้งไปจากต้นเหมือนกัน