2. พระองค์ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าผู้ที่ได้แต่งตั้งพระองค์ เหมือนกับที่โมเสสซื่อสัตย์เมื่อรับใช้อยู่ในบ้านเรือนของพระเจ้า
3. จะเห็นว่าพระเยซูนั้นสมควรที่จะได้รับเกียรติมากกว่าโมเสสเสียอีก เหมือนกับคนที่สร้างบ้านได้รับเกียรติมากกว่าตัวบ้านเอง
4. แน่นอน บ้านทุกหลังจะต้องมีคนสร้าง แต่พระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
5. โมเสสนั้นซื่อสัตย์ในหน้าที่ทุกอย่างในฐานะคนใช้ในครัวเรือนของพระเจ้า และเขามีหน้าที่บอกให้คนรู้ถึงสิ่งที่พระเจ้าจะเปิดเผยในอนาคต
6. แต่พระคริสต์นั้นซื่อสัตย์ในฐานะบุตรเหนือครัวเรือนของพระเจ้า แล้วเรานั่นแหละคือครัวเรือนของพระองค์ ถ้าหากเรายังยึดมั่นในความกล้าหาญและในความภาคภูมิใจของเราที่เกิดจากความหวังที่เรามีอยู่นั้น
7. อย่างนั้นตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ พูดว่า“วันนี้ ถ้าพวกเจ้าได้ยินเสียงของพระเจ้า
8. ก็อย่ามีใจดื้อรั้น เหมือนกับตอนนั้นที่เจ้ากบฏต่อพระเจ้าในวันนั้นที่เจ้าได้ลองดีกับพระเจ้า ในที่เปล่าเปลี่ยว”
9. พระเจ้าพูดว่า“บรรพบุรุษของพวกเจ้า ได้ลองดีและท้าทายเราในที่เปล่าเปลี่ยวนั้นทั้งๆที่พวกเขาได้เห็นเราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ตลอดสี่สิบปี
10. นั่นเป็นเหตุที่เราโกรธคนรุ่นนั้น และเราพูดว่า‘ใจของเขาหลงผิดเสมอ คนพวกนี้ไม่เคยเข้าใจวิถีทางของเรา’
11. ดังนั้น ตอนที่เราโกรธ เราได้สาบานว่า‘พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าไปหยุดพักผ่อนกับเรา’” (สดุดี 95:7-11)
12. พี่น้องครับ ระวังให้ดี ในพวกพี่น้อง อย่าให้มีใครสักคนเลยที่มีจิตใจชั่วร้าย ที่ไม่ไว้วางใจพระเจ้า เพราะใจอย่างนี้จะทำให้พี่น้องหันไปจากพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่
13. แต่ให้กำลังใจกันและกันทุกๆวัน ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ใน “วันนี้” เพื่อบาปจะได้ไม่หลอกพวกพี่น้อง ทำให้มีใจแข็งกระด้าง