10. แต่คนพวกนี้ได้ด่าว่าในเรื่องที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ ส่วนเรื่องที่เขาเข้าใจตามสัญชาตญาณอย่างสัตว์ที่ไม่มีความคิดนั้น ก็กลับเป็นสิ่งที่ทำลายพวกเขา
11. พวกนี้ทำตัวน่าละอายที่สุด พวกเขาทำตัวเหมือนคาอินที่ฆ่าน้องของตัวเอง พวกนี้ได้ปล่อยตัวไปตามความผิดที่บาลาอามได้ทำเพราะอยากจะร่ำรวย คนพวกนี้จะถูกทำลายไปเหมือนกับโคราห์ที่กบฏต่อโมเสส
12. เมื่อพวกคุณมาพบปะสังสรรค์ดื่มกินกันเพื่อแสดงความรักต่อกัน คนพวกนี้ก็มาร่วมด้วย พวกเขาเป็นเหมือนหินโสโครกอันตรายที่ทำให้เรือแตกได้ พวกเขาดื่มกินกับคุณอย่างหน้าด้านๆ เป็นคนเลี้ยงแกะที่เลี้ยงดูแต่ตัวเอง เป็นเหมือนเมฆที่ไม่มีน้ำฝนที่ถูกพัดไปตามลม เป็นเหมือนต้นไม้ที่ไม่ออกลูกตามฤดูกาล และถูกถอนรากถอนโคนตายซ้ำสอง
13. เป็นเหมือนคลื่นบ้าคลั่งในทะเลที่ซัดเอาการกระทำที่น่าละอายของตัวเองขึ้นมาให้เห็นเป็นฟอง เป็นเหมือนดวงดาวที่หลุดจากวงโคจร พระเจ้าได้จองที่ให้คนพวกนี้ในความมืดมิดที่ไม่มีวันจบสิ้น
14. อีโนค เป็นคนรุ่นที่เจ็ดนับจากอาดัม เขาได้ทำนายเกี่ยวกับคนพวกนี้ว่า “ดูนั่นสิ องค์เจ้าชีวิตมาพร้อมกับทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์นับพันนับหมื่นของพระองค์
15. เพื่อมาตัดสินลงโทษทุกๆคนที่ไม่เกรงกลัวพระเจ้าสำหรับการกระทำที่ไม่เกรงกลัวพระองค์ และสำหรับคำพูดที่หยาบช้าทั้งหมดของคนบาปที่ไม่เกรงกลัวพระเจ้า”
16. คนพวกนี้ขี้บ่น ชอบจับผิด ชอบทำตามตัณหาราคะของตัวเอง ขี้อวด ขี้ประจบสอพลอเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
17. เพื่อนๆที่รัก ขอให้จำสิ่งที่พวกศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ได้เคยพูดไว้ว่า
18. “ในยุคสุดท้าย จะมีคนเยาะเย้ยพระเจ้า พวกนี้จะทำตามกิเลสตัณหาชั่วอย่างไม่เกรงกลัวพระองค์”
19. พวกนี้แหละที่สร้างความแตกแยกขึ้นในหมู่พวกคุณ และพวกเขาก็ทำตามสัญชาตญาณ เพราะไม่มีพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ด้วย
20. ส่วนพวกคุณ เพื่อนที่รัก ขอให้ก่อร่างกันขึ้นบนรากฐานของหลักความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่คุณมี และให้อธิษฐานด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์