32. พวกคุณจะรู้จักความจริงและความจริงจะทำให้พวกคุณเป็นอิสระ”
33. พวกเขาตอบว่า “พวกเราเป็นลูกหลานของอับราฮัม และไม่เคยเป็นทาสใคร ทำไมอาจารย์ถึงพูดว่า ‘พวกคุณจะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ’”
34. พระเยซูตอบว่า “เราจะบอกให้รู้นะว่าจริงๆแล้วคนที่ยังทำบาปอยู่ก็เป็นทาสของความบาป
35. ทาสไม่ใช่คนในครอบครัว แต่ลูกเป็นคนในครอบครัวตลอดไป
36. ดังนั้นถ้าพระบุตรปลดปล่อยให้พวกคุณเป็นอิสระ พวกคุณก็จะเป็นอิสระจริงๆ
37. เรารู้ว่าพวกคุณเป็นลูกหลานของอับราฮัม แต่พวกคุณพยายามจะฆ่าเรา เพราะว่าพวกคุณไม่ทำตามคำสั่งสอนของเรา
38. เราได้บอกคุณถึงสิ่งที่เราได้เห็นจากพระบิดาของเรา แต่พวกคุณกลับไปทำตามสิ่งที่คุณได้ยินจากพ่อของคุณเอง”
39. พวกเขาพูดว่า “อับราฮัมเป็นพ่อของพวกเรานะ”พระเยซูจึงพูดว่า “ถ้าพวกคุณเป็นลูกหลานของอับราฮัมจริง พวกคุณจะต้องทำตามที่อับราฮัมทำ
40. เราได้เอาความจริงที่ได้ยินจากพระเจ้ามาบอกพวกคุณ แต่พวกคุณกลับจะฆ่าเรา อับราฮัมไม่เคยทำอย่างนี้เลย
41. แต่คุณทำตามที่พ่อของคุณทำ”พวกยิวจึงพูดกับพระเยซูว่า “พวกเราไม่ได้เป็นลูกชู้ พระเจ้าเท่านั้นคือพ่อที่แท้จริงของพวกเรา”
42. พระเยซูพูดว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพ่อของพวกคุณจริงๆพวกคุณก็คงรักเราแล้ว เพราะเรามาจากพระเจ้า ที่เราอยู่ที่นี่ก็เพราะพระเจ้าส่งมา เราไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเอง
43. ที่พวกคุณไม่เข้าใจเรื่องที่เราพูดก็เพราะพวกคุณทนฟังไม่ได้
44. พวกคุณมาจากพ่อของพวกคุณที่เป็นมารร้าย และพวกคุณก็อยากจะทำตามใจพ่อของคุณ มันเป็นนักฆ่าคนมาตั้งแต่แรกแล้ว และมันก็ไม่เคยอยู่ฝ่ายความจริงเลย เพราะมันไม่มีความจริงในตัวเอง มันพูดโกหกตามสันดานของมัน เพราะมันเป็นนักโกหก และเป็นพ่อของการโกหก
45. เมื่อเราพูดความจริง พวกคุณก็เลยไม่เชื่อเรา