3. พระองค์ยื่นมือออกไปแตะตัวเขา และพูดว่า “เราอยากช่วย หายเถิด” แล้วเขาก็หายทันที
4. พระเยซูจึงบอกเขาว่า “อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดูและให้ถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ คนอื่นจะได้รู้ว่าเจ้าหายแล้ว”
5. เมื่อพระเยซูเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม มีนายร้อยคนหนึ่งเข้ามาหา เพื่อขอให้พระองค์ช่วย
6. เขาพูดว่า “นายท่าน คนใช้ของผมนอนเป็นอัมพาตอยู่ที่บ้าน ต้องทนทุกข์ทรมานมาก”
7. พระเยซูบอกนายร้อยว่า “เราจะไปรักษาให้”
8. นายร้อยจึงบอกพระองค์ว่า “นายท่าน ผมไม่ดีพอที่จะให้ท่านเข้าไปในบ้านของผม ท่านแค่สั่งเท่านั้น คนใช้ของผมก็จะหาย
9. ที่ผมรู้ก็เพราะผมเป็นทหาร มีทั้งหัวหน้าที่สั่งผม และมีลูกน้องที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งผม เมื่อผมสั่งให้ ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งให้ ‘มา’ เขาก็มา และถ้าสั่งให้ทาสของผม ‘ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้’ เขาก็ทำ”
10. เมื่อพระเยซูได้ยินอย่างนั้นก็แปลกใจมาก และพูดกับคนที่ติดตามมาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า ยังไม่เคยพบใครในอิสราเอล ที่มีความเชื่อยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย
11. เราจะบอกให้รู้ว่า จะมีคนจำนวนมากมาจากตะวันออกและตะวันตก เพื่อมาร่วมในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ในอาณาจักรแห่งสวรรค์