23. รู้แต่ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เตือนผมในทุกเมืองที่ไปว่า ทั้งคุก ทั้งความทุกข์ยากลำบาก กำลังรอผมอยู่ที่เมืองเยรูซาเล็ม
24. แต่ผมไม่สนใจหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผม ขอเพียงแต่ให้ผมวิ่งถึงเส้นชัย และทำงานที่พระเยซูเจ้ามอบหมายไว้ให้สำเร็จก็พอแล้ว งานนั้นก็คือการประกาศข่าวดี เรื่องความเมตตากรุณาของพระเจ้า
25. ผมรู้ว่าต่อไปนี้จะไม่มีใครเลยในพวกคุณ ที่ผมได้ตระเวนไปประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าให้ฟังนั้น จะได้เห็นหน้าผมอีก
26. ดังนั้นผมขอบอกให้รู้ตอนนี้เลยว่า ถ้าหากมีใครในพวกคุณหลงหาย อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน
27. เพราะผมได้บอกเรื่องที่พระเจ้าอยากให้พวกคุณรู้อย่างครบถ้วนแล้ว
28. ระวังตัวเองกับฝูงชนทั้งหลายที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้ตั้งให้คุณเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู ซึ่งก็คือหมู่ประชุมของพระเจ้า ที่พระองค์ได้ซื้อมาด้วยเลือดของพระองค์เอง
29. ผมรู้ว่าเมื่อผมจากไป จะมีคนอื่นที่เป็นเหมือนฝูงหมาป่าดุร้ายเข้ามาทำร้ายฝูงชนของพระเจ้า
30. แม้แต่พวกคุณเองบางคน ก็จะพูดบิดเบือนความจริง เพื่อล่อพวกศิษย์ของพระเยซูให้ไปติดตามพวกเขาแทน
31. ฉะนั้น ระวังตัวไว้ให้ดี จำไว้ว่าตลอดเวลาสามปีมานี้ ผมได้ตักเตือนพวกคุณแต่ละคนด้วยน้ำตามาตลอด ไม่เคยหยุดเลยทั้งกลางวันและกลางคืน
32. และเดี๋ยวนี้ ผมขอมอบพวกคุณไว้กับพระเจ้า และกับพระคำเรื่องความเมตตากรุณาของพระองค์ ที่จะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น และจะทำให้คุณเป็นผู้รับมรดกร่วมกับคนพวกนั้นทั้งหมดที่พระเจ้าได้แยกออกมาไว้เป็นของพระองค์
33. ผมไม่เคยคิดอยากจะได้เงินทอง หรือเสื้อผ้าของใครเลย
34. พวกคุณก็รู้ว่า ผมได้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองและคนที่อยู่กับผม ด้วยมือทั้งสองของผมนี้
35. ที่ผมทำอย่างนี้ ก็เพื่อพวกคุณจะได้เห็นว่าเราจะต้องทำงานหนัก เพื่อจะได้ช่วยเหลือคนที่ขัดสน จำคำพูดของพระเยซูเจ้าไว้ให้ดี ที่ว่า ‘การให้เป็นเกียรติมากยิ่งกว่าการรับ’”
36. หลังจากเปาโลพูดเสร็จแล้ว เขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับทุกคน และเขาได้อธิษฐาน