3. เพราะเปาโลและอาควิลลาเป็นช่างเย็บเต็นท์เหมือนกัน เปาโลก็เลยทำงานอยู่กับพวกเขา
4. ทุกวันหยุดทางศาสนา เปาโลก็จะไปพูดโต้ตอบกันในที่ประชุมชาวยิว เพื่อพยายามชักชวนชาวยิวและชาวกรีกให้มาเชื่อในพระเยซู
5. เมื่อสิลาสและทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาประกาศพระคำและพยายามจะให้ชาวยิวรู้ว่า พระเยซูคือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
6. เมื่อพวกนั้นต่อต้านและพูดจาหยาบคายกับเปาโล เปาโลก็สะบัดเสื้อผ้า ของเขา และพูดว่า “ชีวิตใครก็รับผิดชอบกันเอาเองก็แล้วกัน ผมทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไปหาคนที่ไม่ใช่ยิว”
7. เปาโลก็ออกจากที่ประชุมชาวยิวตรงไปที่บ้านของชายชื่อ ทิทิอัสยุสทัส ซึ่งไม่ใช่คนยิว แต่นับถือพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ถัดจากที่ประชุมชาวยิว
8. คริสปัส ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ประชุมชาวยิว พร้อมกับสมาชิกในครอบครัวทุกคน ก็หันมาไว้วางใจในองค์เจ้าชีวิต ชาวโครินธ์อีกจำนวนมากที่ได้ฟังเปาโลพูดก็ได้ไว้วางใจด้วย และเข้าพิธีจุ่มน้ำ
9. คืนหนึ่งองค์เจ้าชีวิต พูดกับเปาโลในนิมิต ว่า “ไม่ต้องกลัว ประกาศต่อไป อย่าเงียบเฉย
10. เพราะเราอยู่กับเจ้า จะไม่มีใครเข้ามาจู่โจมทำร้ายเจ้าได้ เพราะเรามีคนอยู่มากมายในเมืองนี้”
11. เปาโลสั่งสอนพระคำของพระเจ้าอยู่ที่เมืองนั้นต่อไปอีกหนึ่งปีครึ่ง
12. ตอนที่กัลลิโอ เป็นผู้ว่าแคว้นอาคายา ชาวยิวรวมตัวกันเข้าทำร้ายเปาโล และพาเขาไปที่ศาล
13. พวกเขาบอกว่า “ชายคนนี้ชักชวนให้คนไปกราบไหว้พระเจ้าในทางที่ขัดกับกฎของเรา”
14. พอเปาโลจะอ้าปากพูด กัลลิโอก็พูดกับชาวยิวว่า “ถ้าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความผิดหรือคดีร้ายแรง เราก็จะฟังพวกท่าน
15. แต่นี่มันเป็นเรื่องโต้แย้งเกี่ยวกับคำสอนต่างๆ ชื่อต่างๆและกฎปฏิบัติของพวกท่าน ไปจัดการกันเอาเองก็แล้วกัน เราไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้”