3. เพราะตอนนี้คุณก็ได้ลิ้มรสแล้วว่าองค์เจ้าชีวิตนั้นดีขนาดไหน
4. ให้เข้ามาใกล้พระเยซูคริสต์ผู้เป็นหินที่มีชีวิตอยู่ คนในโลกนี้ไม่ยอมรับหินก้อนนี้ แต่พระองค์เป็นหินที่มีเกียรติมากสำหรับพระเจ้าผู้ที่เลือกพระองค์มา
5. พวกคุณก็เหมือนกัน พวกคุณเป็นเหมือนหินที่มีชีวิตอยู่ ที่กำลังถูกสร้างขึ้นเป็นวิหารสำหรับพระวิญญาณ พวกคุณเป็นพวกนักบวชที่ศักดิ์สิทธิ์ทำหน้าที่ถวายเครื่องบูชาฝ่ายพระวิญญาณ พระเจ้าชอบใจกับเครื่องบูชาแบบนี้ก็เพราะถวายผ่านทางพระเยซูคริสต์
6. เหมือนกับที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า“ดูสิ เราวางหินก้อนหนึ่งไว้ในเมืองศิโยนเป็นหินที่สำคัญที่สุด มีเกียรติและได้รับการคัดเลือกมาแล้วและคนที่ไว้วางใจในหินก้อนนั้นจะไม่มีวันอับอายขายหน้าเลย” (อิสยาห์ 28:16)
7. ดังนั้น พวกคุณที่ไว้วางใจ มีส่วนร่วมในเกียรติของหินก้อนนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่ไว้วางใจ มันก็เป็นไปตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า“หินก้อนนี้ ที่คนก่อสร้างได้โยนทิ้งไปกลับกลายมาเป็นหินที่สำคัญที่สุด” (สดุดี 118:22)
8. และ“เป็นหินที่ทำให้คนเดินสะดุดและเป็นก้อนหินที่ทำให้คนหกล้ม” (อิสยาห์ 8:14)พวกเขาสะดุดล้มก็เพราะไม่ยอมเชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า เรื่งนี้เป็นไปตามที่พระเจ้าได้กำหนดไว้แล้ว
9. แต่คุณเป็นผู้ที่พระเจ้าคัดเลือกมา เป็นนักบวชของพระองค์ผู้เป็นกษัตริย์ เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ และเป็นคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ พระองค์ทำอย่างนี้ เพื่อคุณจะได้ไปป่าวประกาศถึงการกระทำอันยอดเยี่ยมทั้งหลายของพระองค์ พระองค์ได้เรียกคุณออกมาจากความมืด ให้เข้ามาหาความสว่างที่สุดแสนจะวิเศษของพระองค์
10. แต่ก่อนนั้นคุณไม่มีชนชาติแต่เดี๋ยวนี้คุณเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้วแต่ก่อนนั้นพระเจ้าไม่ได้เมตตาคุณแต่เดี๋ยวนี้พระองค์ได้เมตตาคุณแล้ว