9. มีผู้ฉวยเด็กกำพร้าไปจากอกและเอาทารกของคนยากจนไปเป็นประกัน
10. คนยากจนจึงเดินเปลือยกายไป ไม่มีเสื้อผ้าทั้งๆ ที่หิว เขาก็แบกฟ่อนข้าวไป
11. เขาหีบมะกอกเอาน้ำมันท่ามกลางแนวหมู่ไม้เขาย่ำองุ่นที่บ่อย่ำ แต่ต้องทนกระหาย
12. คนกำลังจะตายคร่ำครวญออกมาจากเมืองและคนบาดเจ็บร้องขอความช่วยเหลือแต่พระเจ้ามิได้สนพระทัยคำอธิษฐานของเขา
13. “มีผู้กบฏต่อความสว่างผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับทางของความสว่างนั้นและมิได้อยู่ในวิถีของความสว่างนั้น
14. ฆาตกรลุกขึ้นแต่เช้าตรู่เขาฆ่าคนยากจนและคนขัดสนและในยามค่ำคืน เขาเป็นเหมือนขโมย
15. ดวงตาของผู้ล่วงประเวณีคอยเวลาพลบค่ำกล่าวว่า ‘ไม่มีตาใดจะเห็นข้า’และเขาก็คลุมหน้า
16. ในยามมืดเขาขุดเข้าไปในเรือนกลางวันเขาก็เก็บตัวเขาไม่รู้จักความสว่าง
17. เพราะความมืดทึบเป็นเหมือนเวลาเช้าแก่เขาทุกคนเพราะเขาคุ้นเคยกับความสยดสยองของความมืดทึบ
18. “เขาลอยละลิ่วไปบนผิวน้ำส่วนแบ่งของเขาถูกสาปในแผ่นดินไม่มีผู้ใดหันหน้าไปสู่สวนองุ่นของเขา
19. ความแห้งแล้งและความร้อนฉวยเอาน้ำที่ละลายจากหิมะไปฉันใดแดนคนตายก็ฉวยเอาผู้ทำบาปไปฉันนั้น
20. ครรภ์จะลืมเขาตัวหนอนจะกินเขาอย่างอร่อยไม่มีผู้ใดจำชื่อเขาได้ต่อไปความอธรรมจึงหักลงเหมือนต้นไม้
21. “เขาข่มเหงหญิงหมันที่ไม่มีลูกและไม่ได้ทำดีอะไรแก่หญิงม่าย
22. แต่พระเจ้ายังทรงยืดชีวิตของคนมีกำลังด้วยพลานุภาพของพระองค์แม้เขาสิ้นหวังในชีวิต เขาก็ลุกขึ้นได้
23. พระองค์ประทานความปลอดภัยแก่เขา และเขาก็พึ่งพิงอยู่และพระเนตรพระองค์จับอยู่บนหนทางของเขา