4. เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย
5. ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันพวกเขาตายประมาณ 36 คน โดยขับไล่เขาจากประตูเมืองไปถึงเชบาริม ฆ่าเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ
6. ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์จนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน
7. โยชูวากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ทำไมพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบพวกข้าพระองค์ไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ทำลายเสีย? พวกข้าพระองค์น่าจะพอใจอยู่เพียงฟากตะวันออกของจอร์แดน
8. ข้าแต่องค์เจ้านาย ข้าพระองค์จะทูลอะไรได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว
9. เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และลบชื่อของพวกข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงทำอะไรเพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?”
10. ฝ่ายพระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้นเถิด ทำไมเจ้าจึงซบหน้าลงอย่างนี้เล่า?
11. อิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เขาได้ขโมยและหลอกลวง และได้เอาของนั้นรวมไว้กับข้าวของของตน
12. เพราะฉะนั้นประชาชนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งที่ต้องทำลายถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า
13. จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งที่ต้องทำลายถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”
14. พอรุ่งเช้าพวกท่านจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละครอบครัว ครอบครัวใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน
15. ใครถูกจับว่ามีสิ่งที่ต้องทำลายถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและทุกสิ่งที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ และเพราะเขาได้ทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล’ ”
16. โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และนำประชาชนอิสราเอลเข้ามาทีละเผ่า และเผ่ายูดาห์ถูกจับไว้