6. แต่หญิงนั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วซ่อนตัวเขาไว้ใต้ต้นป่านซึ่งวางเรียงกันตากไว้บนดาดฟ้านั้น
7. พวกผู้ชายก็ไล่ตามคนทั้งสองไปทางแม่น้ำจอร์แดนจนถึงท่าข้าม พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปแล้วพวกเขาก็ปิดประตูเมือง
8. เมื่อชายทั้งสองคนยังไม่นอน หญิงนั้นก็ขึ้นไปหาพวกเขาบนดาดฟ้า
9. กล่าวแก่ชายเหล่านั้นว่า “ดิฉันทราบแล้วว่า พระยาห์เวห์ประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความกลัวพวกท่านครอบงำเรา และบรรดาชาวแผ่นดินก็หวาดกลัวพวกท่าน
10. เพราะพวกเราได้ยินเรื่องที่พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทะเลแดงแห้งไปต่อหน้าท่าน เมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้ทำต่อกษัตริย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งพวกท่านได้ทำลายเสีย
11. เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอพวกเราได้ยินข่าวนี้ เราก็ใจเสีย ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง
12. บัดนี้ขอท่านสาบานให้ดิฉันในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ในเมื่อดิฉันได้แสดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉันด้วย และให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน
13. และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้”
14. ชายนั้นจึงตอบนางว่า “ชีวิตของเราเพื่อชีวิตของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าไม่เปิดเผยภารกิจนี้ของเรากับใคร เราจะมีความเมตตาและซื่อสัตย์ต่อเจ้า เมื่อพระยาห์เวห์ประทานแผ่นดินนี้แก่เรา”
15. แล้วนางจึงเอาเชือกหย่อนเขาทั้งสองลงทางหน้าต่าง เพราะบ้านของนางตั้งอยู่ที่กำแพงเมือง นางอาศัยอยู่ในกำแพง
16. นางจึงบอกพวกเขาว่า “จงไปที่ภูเขา เพื่อไม่ให้ผู้ไล่ตามพบเข้า จงซ่อนตัวอยู่ที่นั่นสามวันจนกว่าผู้ไล่ตามจะกลับ แล้วค่อยออกเดินทางต่อไป”
17. ชายเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “เราจะไม่ให้ผิดคำสาบานซึ่งเจ้าได้ให้เราสาบานนั้น