10. และสวมวิสัยมนุษย์ใหม่ที่กำลังได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามพระฉายาของพระองค์ผู้ทรงสร้าง เพื่อให้รู้จักพระเจ้า
11. การนี้ไม่มีกรีกหรือยิว คนที่เข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัต อนารยชนและคนป่าเถื่อน ไม่มีทาสหรือเสรีชน แต่ว่าพระคริสต์ทรงเป็นทุกสิ่ง และทรงอยู่ในทุกสิ่ง
12. เพราะฉะนั้นในฐานะเป็นพวกที่พระเจ้าทรงเลือก พวกที่บริสุทธิ์ และพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจกรุณา ใจถ่อม ใจสุภาพอ่อนโยน ใจอดทน
13. จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย
14. แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความรักผูกพันทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์
15. และจงให้สันติสุขของพระคริสต์นำพาจิตใจของท่านทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มาเป็นกายเดียวกันก็เพื่อสันติสุขนี้ และจงมีใจขอบพระคุณ
16. จงให้พระวจนะของพระคริสต์อยู่ในพวกท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณด้วยการขอบพระคุณพระเจ้าในใจของท่าน
17. และเมื่อท่านทั้งหลายทำสิ่งใดไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือด้วยการประพฤติ จงทำทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดา โดยทางพระองค์
18. ภรรยาทั้งหลายจงยอมเชื่อฟังสามีของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า
19. สามีทั้งหลายจงรักภรรยาของตน และอย่าทำรุนแรงต่อพวกนาง
20. บุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนในทุกเรื่อง เพราะสิ่งนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า