9. และทรงมอบฉลองพระองค์และม้านั้นแก่เจ้านายชั้นสูงที่สุดคนหนึ่งของกษัตริย์ และทรงให้เขาแต่งตัวให้กับคนที่กษัตริย์พอพระทัยจะยกย่อง และให้เขาช่วยท่านผู้นั้นขึ้นนั่งบนหลังม้าและนำท่านไปตามถนนในเมือง และให้เขาป่าวร้องไปข้างหน้าท่านว่า ‘ผู้ที่กษัตริย์พอพระทัยจะยกย่องก็เป็นอย่างนี้แหละ’ ”
10. กษัตริย์จึงตรัสกับฮามานว่า “รีบเข้าเถอะ เอาเสื้อและม้าอย่างที่ท่านว่า แล้วทำอย่างนั้นกับโมรเดคัยคนยิว ซึ่งนั่งที่ประตูพระราชวัง อย่าละเว้นสิ่งใดตามที่ท่านกล่าวมานั้นเลย”
11. ฮามานจึงนำฉลองพระองค์กับม้าและแต่งตัวให้โมรเดคัย และให้ท่านขึ้นม้าไปตามถนนในเมือง ฮามานก็ป่าวร้องไปข้างหน้าท่านว่า “คนที่กษัตริย์พอพระทัยจะยกย่องก็เป็นอย่างนี้แหละ”
12. แล้วโมรเดคัยก็กลับมายังประตูพระราชวัง แต่ฮามานรีบกลับบ้าน คลุมศีรษะและคร่ำครวญ
13. และฮามานก็เล่าทุกสิ่งที่เกิดกับเขาให้เศเรชภรรยาและเพื่อนทุกคนของเขาฟัง ที่ปรึกษาและเศเรชภรรยาของเขากล่าวว่า “ถ้าท่านเริ่มล้มลงต่อหน้าโมรเดคัย และเพราะเขาเป็นชาติยิว ท่านจะไม่ชนะเขา แต่จะล้มลงต่อหน้าเขาแน่”
14. ขณะที่เขาทั้งหลายกำลังพูดกับฮามานอยู่ พวกขันทีของกษัตริย์ก็มาถึงและรีบพาฮามานไปยังงานเลี้ยงซึ่งพระนางเอสเธอร์ทรงจัดขึ้นนั้น