3. พระสิริของพระเจ้าแห่งอิสราเอลที่อยู่บนเครูบได้ถูกยกขึ้นไปยังธรณีประตูพระนิเวศ และพระองค์ตรัสเรียกชายซึ่งนุ่งห่มผ้าป่านที่มีกล่องเครื่องเขียนที่เอว
4. และพระยาห์เวห์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเข้าไปในนครคือกรุงเยรูซาเล็ม และทำเครื่องหมายไว้ที่หน้าผากของบรรดาคนที่ถอนหายใจและคร่ำครวญ เนื่องจากสิ่งน่าสะอิดสะเอียนทั้งหมดที่ทำกันในเมืองนั้น”
5. และพระองค์ตรัสกับชายคนอื่นๆ ให้ข้าพเจ้าได้ยินว่า “จงไปตลอดนครตามหลังชายคนนั้นแล้วฆ่าฟันเสีย นัยน์ตาของเจ้าทั้งหลายอย่าได้ปรานี และเจ้าอย่าสำแดงความกรุณา
6. จงฆ่าทำลายทั้งคนแก่ คนหนุ่ม และหญิงสาว ทั้งเด็กและพวกผู้หญิง แต่อย่าเข้าใกล้ผู้มีเครื่องหมาย และจงเริ่มต้นที่สถานนมัสการของเรา” ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงตั้งต้นกับพวกชายแก่ผู้อยู่หน้าพระนิเวศนั้น
7. แล้วพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงทำให้พระนิเวศเป็นมลทิน จงทิ้งผู้ถูกฆ่าให้เต็มลาน จงไปเถิด” เขาทั้งหลายจึงออกไปและฟาดฟันในนคร
8. ขณะที่เขาทั้งหลายกำลังฟาดฟันอยู่นั้น ข้าพเจ้าอยู่ตามลำพัง ข้าพเจ้าก็ซบหน้าลงถึงดินร้องว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย พระองค์จะทรงทำลายคนอิสราเอลที่เหลืออยู่นั้นจนหมด เพื่อระบายความโกรธของพระองค์เหนือเยรูซาเล็มหรือ?”
9. แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บาปของพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์มีมากมายยิ่งนัก แผ่นดินก็เต็มด้วยโลหิต และความอยุติธรรมก็เต็มนคร เพราะพวกเขากล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้งแผ่นดินนี้แล้ว และพระยาห์เวห์ไม่ทอดพระเนตรอีก’
10. และสำหรับเราเอง นัยน์ตาเราจะไม่ปรานี และเราจะไม่สำแดงความกรุณา แต่เราจะลงโทษเหนือศีรษะของพวกเขาตามความประพฤติของเขา”
11. และดูสิ ชายที่นุ่งห่มผ้าป่านหนีบกล่องเครื่องเขียนที่เอวนั้น ได้นำถ้อยคำกลับมากล่าวว่า “ข้าพระองค์ได้ทำตามทุกสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาข้าพระองค์ไว้นั้นแล้ว”