6. “เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่าวิบัติแก่กรุงที่ชุ่มด้วยโลหิตคือหม้อที่ขึ้นสนิมข้างในและสนิมก็ไม่หลุดออกมาจงเอาเนื้อออกทีละชิ้นไม่ต้องเลือกด้วยการจับฉลาก
7. เพราะโลหิตที่เธอทำให้ตกนั้นยังอยู่ท่ามกลางเธอเธอเทโลหิตไว้บนหินเรียบเธอไม่ได้เทลงบนพื้นดินแล้วให้ฝุ่นกลบไว้
8. เพื่อเร้าความโกรธและการแก้แค้นเราได้เทโลหิตที่เธอทำให้ตกนั้นไว้บนหินเรียบเพื่อไม่ให้โลหิตถูกปกปิดไว้
9. “เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่าวิบัติแก่กรุงที่ชุ่มโลหิตเราจะทำให้กองฟืนนั้นใหญ่ขึ้นด้วย
10. จงสุมฟืนเข้าไปและก่อไฟขึ้นต้มเนื้อให้ดี และใส่เครื่องปรุงและปล่อยกระดูกให้ไหม้
11. และจงวางหม้อเปล่าไว้บนถ่านเพื่อให้มันร้อนจนทองแดงไหม้และให้สิ่งที่เป็นมลทินของมันละลายไปในนั้น สนิมของมันถูกเผาไหม้
12. แต่ความพยายามก็ไร้ผลสนิมที่หนาของมันก็ไม่หลุดออกจงทิ้งสนิมไปในไฟ
13. การมักมากในกามทำให้เจ้ามีมลทินเพราะว่าเราชำระเจ้าแต่เจ้าก็ไม่ถูกชำระจากมลทินของเจ้าเจ้าก็จะไม่ถูกชำระอีกต่อไปจนกว่าเราจะระบายความโกรธของเราออกเหนือเจ้าจนหมด
14. “เราคือยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาแล้ว เวลาได้มาถึงแล้ว และเราจะทำเช่นนั้น จะไม่มีการยับยั้ง เราจะไม่ปรานีและเราจะไม่สงสาร เราจะพิพากษาเจ้าตามวิถีทางและการกระทำของเจ้า” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ
15. พระวจนะของพระยาห์เวห์มายังข้าพเจ้าอีกว่า
16. “บุตรมนุษย์เอ๋ย นี่แน่ะ เราจะเอาผู้ที่เจ้ารักไปจากเจ้าอย่างฉับพลัน แต่เจ้าอย่าคร่ำครวญหรือร้องไห้ หรือน้ำตาตก
17. เจ้าถอนหายใจได้ แต่ห้ามมีเสียง อย่าไว้ทุกข์ให้ผู้ตาย จงโพกผ้าของเจ้า และสวมรองเท้าที่เท้าของเจ้า อย่าปิดหนวดหรือกินอาหารของคนเศร้าโศก”