2. และเชคานิยาห์บุตรเยฮีเอล พงศ์พันธุ์เอลามกล่าวกับเอสราว่า “พวกเราได้ทำผิดต่อพระเจ้าของเราไปแล้ว และได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติจากชนชาติต่างๆ ของแผ่นดินนี้ แต่ถึงจะมีเรื่องอย่างนี้ ก็ยังมีความหวังในอิสราเอลอยู่
3. เพราะฉะนั้น ให้เราทำพันธสัญญากับพระเจ้าของเรา ที่จะทิ้งภรรยาเหล่านี้และลูกๆ ซึ่งเกิดมาจากพวกนางเสีย ตามคำปรึกษาของเจ้านายของข้าพเจ้า และของบรรดาผู้ยำเกรงพระบัญญัติของพระเจ้าของเรา และขอให้ทำตามกฎหมายเถิด
4. จงลุกขึ้น เพราะเป็นหน้าที่ของท่าน และพวกเราจะสนับสนุนท่าน ขอจงเข้มแข็งและทำไปเถิด”
5. แล้วเอสราได้ลุกขึ้นให้พวกปุโรหิตใหญ่และเลวีและอิสราเอลทั้งหมดทำสัตย์สาบานว่า เขาจะทำตามที่ได้พูดแล้ว พวกเขาจึงทำสัตย์สาบาน
6. แล้วเอสราก็ลุกขึ้นไปจากพระนิเวศของพระเจ้า เข้าไปในห้องของเยโฮฮานันบุตรเอลียาชีบ เมื่อมาถึงที่นั่นแล้วก็ไม่รับประทานขนมปังหรือดื่มน้ำ เพราะท่านโศกเศร้าด้วยเรื่องการละเมิดของพวกเชลยที่กลับมา
7. และพวกเขาก็ป่าวร้องทั่วยูดาห์และเยรูซาเล็ม แก่พวกเชลยที่ได้กลับมาทั้งสิ้นว่า ให้มาชุมนุมกันที่เยรูซาเล็ม
8. และถ้าใครไม่มาภายในสามวัน ตามคำสั่งของพวกหัวหน้าและพวกผู้ใหญ่จะต้องริบทรัพย์สมบัติของเขาเสียทั้งสิ้น และเขาจะถูกตัดออกจากชุมนุมชนของพวกเชลย
9. และผู้ชายทุกคนของยูดาห์และเบนยามินได้ชุมนุมกันที่เยรูซาเล็มภายในสามวัน (ในเดือนที่เก้า ณ วันที่ยี่สิบของเดือนนั้น) และประชาชนทั้งปวงนั่งอยู่ที่ลานหน้าพระนิเวศของพระเจ้า ตัวสั่นสะท้านด้วยเรื่องนี้ และเพราะฝนตกหนัก
10. และเอสราปุโรหิตได้ลุกขึ้นพูดกับพวกเขาว่า “พวกท่านได้ละเมิดและได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติ จึงได้ทวีความผิดของอิสราเอล