17. ถ้าเขาถวายที่ดินเริ่มจากปีอิสรภาพ ก็ให้คงเต็มราคาที่เจ้ากำหนด
18. ถ้าเขาถวายที่ดินภายหลังปีอิสรภาพ ก็ให้ปุโรหิตคำนวณค่าเงินตามจำนวนปีที่เหลืออยู่จนกว่าจะถึงปีอิสรภาพ ให้หักเสียจากราคาที่เจ้ากำหนด
19. ถ้าผู้ถวายที่ดินประสงค์จะไถ่ที่ดินนั้น ก็ให้เขาเพิ่มค่าเงินอีกหนึ่งในห้าของกำหนดราคาที่ตีไว้ แล้วที่ดินนั้นจะเป็นของเขา
20. แต่ถ้าเขาไม่ประสงค์จะไถ่ที่ดิน หรือเขาได้ขายที่ดินนั้นให้แก่อีกคนหนึ่งแล้ว ก็อย่าให้ไถ่อีกเลย
21. แต่ที่ดินนั้นเมื่อถึงเวลาไถ่ในปีอิสรภาพจะเป็นของบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์เพราะเป็นที่ดินที่มอบถวายไว้ ปุโรหิตจึงเข้าถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นได้
22. ถ้าคนใดถวายที่ดินที่ซื้อมาแด่พระยาห์เวห์ คือไม่ใช่ส่วนมรดกที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
23. ปุโรหิตจะคำนวณค่าที่ดินนับจนถึงปีอิสรภาพ ในวันนั้นที่ดินจะถูกตีราคาให้เป็นของถวายที่บริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์
24. เมื่อถึงปีอิสรภาพ ที่ดินนั้นต้องกลับเป็นของผู้ที่ขายให้เขาซึ่งเป็นเจ้าของเดิม ตามมรดกที่ตกมาเป็นของเขา
25. การกำหนดราคาทุกอย่าง จะต้องเป็นไปตามค่าเงินเชเขลของสถานนมัสการ ยี่สิบเก-ราห์เป็นหนึ่งเชเขล
26. “แต่ห้ามผู้ใดนำลูกสัตว์หัวปีมาถวาย เพราะที่เป็นสัตว์หัวปีก็ตกเป็นของพระยาห์เวห์อยู่แล้ว โคก็ดี แกะก็ดี เป็นของพระยาห์เวห์
27. ถ้าเป็นสัตว์ที่เป็นมลทินจงให้เขาซื้อคืนตามกำหนดราคาของเจ้า โดยเพิ่มหนึ่งในห้าของกำหนดราคาที่ตีไว้ ถ้าเขาไม่ไถ่ก็ให้ขายเสียตามกำหนดราคาที่ตีไว้