15. “ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจนถึงวันสะบาโต จงนับให้ได้ครบเจ็ดสัปดาห์เต็มๆ คือนับจากวันที่พวกเจ้านำพืชผลรุ่นแรกเข้ามาทำพิธีโบกถวายเป็นต้นไป
16. นับไปให้ได้ห้าสิบวัน จนถึงวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ด แล้วเจ้าจงนำเมล็ดใหม่มาถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นธัญบูชา
17. จงนำขนมปังสองก้อนทำด้วยแป้งสองกิโลกรัมจากที่อาศัยของพวกเจ้ามาทำพิธีโบกถวาย ให้ทำด้วยแป้งอย่างดีใส่เชื้อปิ้งเป็นผลรุ่นแรกถวายแด่พระยาห์เวห์
18. พร้อมกับขนมปังนั้นเจ้าจงนำลูกแกะเจ็ดตัวอายุหนึ่งปีปราศจากตำหนิ โคหนุ่มตัวหนึ่ง แกะผู้สองตัว มาเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวถวายแด่พระยาห์เวห์ พร้อมกับธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชาซึ่งคู่กัน ให้เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นพอพระทัยถวายแด่พระยาห์เวห์
19. จงถวายแพะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และลูกแกะผู้อายุหนึ่งปีสองตัวเป็นเครื่องศานติบูชา
20. ให้ปุโรหิตโบกถวายพร้อมกับขนมปังซึ่งเป็นผลรุ่นแรก เป็นเครื่องโบกถวายแด่พระยาห์เวห์พร้อมกับลูกแกะสองตัว เป็นของถวายบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์สำหรับปุโรหิต
21. และในวันเดียวกันนั้น เจ้าจงประกาศให้มีการประชุมบริสุทธิ์ ห้ามทำงานประจำใดๆ ทั้งนี้เป็นกฎเกณฑ์ถาวรตามที่พักอาศัยของเจ้าตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
22. “และเมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผลในแผ่นดินของเจ้า ห้ามเกี่ยวไปถึงขอบไร่นาจนหมดเกลี้ยง และห้ามเก็บเมล็ดที่เกี่ยวตก จงทิ้งไว้ให้คนยากจนและคนต่างด้าว เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า”
23. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
24. “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ด เจ้าทั้งหลายจงถือเป็นวันหยุดพักสงบวันหนึ่ง เป็นวันประชุมบริสุทธิ์ ประกาศเป็นที่ระลึกด้วยเสียงแตร
25. ห้ามทำงานประจำใดๆ และจงนำเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์”
26. พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
27. “ในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ดนี้เป็นวันลบมลทิน จะเป็นวันประชุมบริสุทธิ์แก่เจ้า และจงปฏิเสธความปรารถนาของเจ้า และนำเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์