8. และถ้าผู้มีสิ่งไหลออกนั้นถ่มน้ำลายรดผู้สะอาด ผู้ที่ถูกน้ำลายรดต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
9. และอานที่ผู้มีสิ่งไหลออกนั่งทับ อานนั้นก็เป็นมลทิน
10. คนที่แตะต้องสิ่งที่รองรับเขานั้น จะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น และคนที่จับต้องสิ่งนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตัวและอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
11. คนที่มีสิ่งไหลออกแตะต้องผู้ใดด้วยมือที่ไม่ได้ล้าง ผู้ถูกแตะต้องนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตัวและอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
12. ภาชนะดินทุกใบซึ่งผู้มีสิ่งไหลออกแตะต้องให้ทุบเสีย และภาชนะไม้ทุกอย่างก็ให้ชำระเสียด้วยน้ำ
13. “เมื่อผู้มีสิ่งไหลออกได้ชำระสิ่งไหลออกของเขาแล้ว เขาต้องนับการชำระของเขาให้ครบเจ็ดวัน และเขาต้องซักเสื้อผ้า และอาบน้ำด้วยน้ำสะอาด เขาจึงจะสะอาด
14. ในวันที่แปดให้เขานำนกเขาสองตัว หรือนกพิราบสองตัวมาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ที่ประตูเต็นท์นัดพบ และมอบของเหล่านั้นให้แก่ปุโรหิต
15. ให้ปุโรหิตถวายบูชา คือถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และนกอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว แล้วปุโรหิตจะลบมลทินของเขาต่อพระยาห์เวห์ เพราะเหตุสิ่งไหลออกของเขา
16. “ชายคนใดมีน้ำกามไหลออกให้เขาอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
17. เครื่องแต่งกายทุกชนิดและหนังทุกชนิดที่น้ำกามไหลรดต้องชำระในน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
18. ชายคนใดหลับนอนกับหญิงคนใด และมีน้ำกามไหลออก ทั้งสองจะต้องอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
19. “หญิงใดมีสิ่งไหลออกเป็นโลหิตประจำเดือน เธอจะต้องเป็นมลทินไปเจ็ดวัน และผู้ใดแตะต้องเธอ จะต้องเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น
20. ขณะเมื่อเธอมีมลทิน เธอไปนอนทับสิ่งใด สิ่งนั้นก็มีมลทิน สิ่งใดที่เธอไปนั่งทับ สิ่งนั้นก็เป็นมลทิน
21. คนที่ไปแตะต้องที่นอนของเธอ ต้องซักเสื้อผ้า และอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น