18. พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถึงแม้ในวันเหล่านั้น เราก็ยังไม่ทำให้เจ้าถึงอวสาน
19. และเมื่อพวกเจ้ากล่าวว่า ‘ทำไมพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทั้งหลายจึงทรงทำสิ่งเหล่านี้แก่เรา?’ เจ้าจงกล่าวแก่เขาว่า ‘เพราะเจ้าได้ละทิ้งเราไปปรนนิบัติพระต่างด้าวในแผ่นดินของเจ้า เพราะฉะนั้น เจ้าจะต้องไปปรนนิบัติคนต่างชาติในแผ่นดินซึ่งไม่ใช่ของเจ้า’ ”
20. "จงป่าวร้องข้อความต่อไปนี้ในวงศ์วานยาโคบจงประกาศเรื่องนี้ในยูดาห์
21. “ประชาชนที่โง่เขลาและไร้ความคิดเอ๋ยผู้มีตา แต่มองไม่เห็นผู้มีหู แต่ฟังไม่ได้ยินจงฟังข้อความนี้
22. เจ้าไม่ยำเกรงเราหรือ?”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ“เจ้าไม่ตัวสั่นอยู่ต่อหน้าเราหรือ?คือเราผู้วางกองทรายไว้เป็นเขตล้อมทะเลเป็นเครื่องกีดขวางเป็นนิตย์ไม่ให้ผ่านไปได้แม้ว่าคลื่นจะซัด ก็เอาชนะไม่ได้แม้ว่าคลื่นจะคะนอง ก็ข้ามไปไม่ได้
23. แต่ประชาชนเหล่านี้มีใจดื้อดึงและกบฏเขาได้หันเหและจากไปเสีย
24. พวกเขาไม่ได้คิดในใจของตนว่า‘ให้เรายำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราผู้ประทานฝนตามฤดูของมันคือฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดูและทรงรักษากฎเกณฑ์ของสัปดาห์แห่งการเก็บเกี่ยวไว้ให้เรา’
25. ความผิดบาปของเจ้าได้ทำให้สิ่งเหล่านี้หันเหไปเสียและบาปของพวกเจ้าก็กันความดีไว้เสียจากเจ้า
26. เพราะจะพบคนอธรรมท่ามกลางประชากรของเราเขาซุ่มคอยเหมือนคนดักนกซุ่มอยู่เขาวางกับไว้เขาดักจับคน
27. เหมือนกรงที่เต็มไปด้วยนกบ้านของพวกเขาก็เต็มด้วยการทรยศเพราะฉะนั้น เขาจึงใหญ่โตและมั่งมี
28. เขาจึงตัวอ้วนอ่อนนิ่มในเรื่องทำชั่วเขาล้ำหน้าเขาไม่ได้ตัดสินด้วยความยุติธรรมในคดีของลูกกำพร้า เพื่อให้คดีนั้นก้าวหน้าเขาไม่ได้ป้องกันสิทธิของคนขัดสน
29. เพราะสิ่งเหล่านี้เราจะไม่ลงโทษเขาหรือ?”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ“และไม่ควรที่เราจะแก้แค้นประชาชาติที่เป็นอย่างนี้หรือ?
30. “สิ่งน่าหวาดหวั่นและน่ากลัวได้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้