11. แต่ภายหลังเขาได้หวนกลับและจับทาสชายและหญิง ซึ่งเขาได้ปล่อยให้เป็นอิสระนั้นมาให้เป็นทาสอยู่ใต้บังคับอีก
12. พระวจนะแห่งพระยาห์เวห์มายังเยเรมีย์จากพระยาห์เวห์ว่า
13. “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราได้ทำพันธสัญญากับบรรพบุรุษของเจ้า เมื่อเรานำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกจากเรือนทาสว่า
14. เมื่อถึงปีที่ 7 ทุกคนจะต้องปล่อยพี่น้องฮีบรูผู้ที่ถูกขายไว้กับเจ้า และได้รับใช้เจ้ามา 6 ปี เจ้าต้องปล่อยเขาให้เป็นอิสระพ้นจากการรับใช้เจ้า แต่บรรพบุรุษของเจ้าไม่ฟังเราและไม่เงี่ยหูฟังเรา
15. เมื่อเร็วๆ นี้เจ้าได้กลับใจและทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราโดยการประกาศอิสรภาพแก่เพื่อนบ้านของตน และเจ้าได้ทำพันธสัญญาต่อหน้าเราในนิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเรา
16. แต่แล้วเจ้าก็หวนกลับทำให้นามของเราเป็นมลทิน เมื่อเจ้าทุกคนจับทาสชายหญิงของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ปล่อยให้เป็นอิสระไปตามความปรารถนาของพวกเขาแล้วนั้นกลับมาให้เป็นทาสอยู่ใต้บังคับอีก
17. เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้ว่า พวกเจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา ที่ให้ประกาศอิสรภาพแก่พี่น้องและเพื่อนบ้านของตน พระยาห์เวห์ตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะประกาศอิสรภาพแก่พวกเจ้าด้วย ดาบ โรคระบาด และการกันดารอาหาร เราจะทำให้เจ้าเป็นที่หวาดกลัวแก่บรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก
18. และคนที่ทำผิดต่อพันธสัญญาของเรา และไม่ได้ทำตามข้อตกลงในพันธสัญญาซึ่งเขาได้กระทำต่อหน้าเรานั้น เราจะทำให้เขาเหล่านั้นเป็นดังลูกวัวที่ถูกตัดออกเป็นสองท่อน และมีคนเดินผ่านกลางท่อนเหล่านั้นไป
19. เจ้านายแห่งยูดาห์ก็ดี เจ้านายแห่งกรุงเยรูซาเล็มก็ดี ข้าราชสำนักก็ดี ปุโรหิตและบรรดาประชาชนแห่งแผ่นดินนั้นก็ดี ผู้ผ่านระหว่างท่อนลูกวัวนั้น
20. เราจะมอบพวกเขาไว้ในมือศัตรูของเขา และในมือของบรรดาผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา ศพของพวกเขาจะเป็นอาหารของนกในอากาศและของสัตว์บนแผ่นดินโลก
21. ส่วนเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์และเจ้านายทั้งหลายของเขานั้น เราจะมอบไว้ในมือศัตรูของเขาและบรรดาผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา และกองทัพแห่งกษัตริย์บาบิโลนซึ่งได้ถอยไปจากเจ้าแล้วนั้น